25 กุมภาพันธ์ 2561
เที่ยวปีนัง จอร์จทาวน์ ตอน 5 ปีนังฮิลล์ เขากลางเมือง 26 ตุลาคม 2560
กว่าจะได้เขียนก็เอ่อระเหยไปเกือบ 2 เดือนเพราะไม่มีอะไรบังคับ ไม่ได้มีอาชีพเขียนหนังสือปิดต้นฉบับให้ทัน
บ่ายวันที่ 3 ของการไปเที่ยวหลังจากช่วงเช้าได้มีโอกาสขับรถขึ้น ปีนังบริดส์ ที่เชื่อมระหว่างเมืองสวยงามมาก ช่วงบ่ายคล้อยไปทางบ่ายแก่ๆ เพื่อไม่ให้อากาศร้อนทางพรรคพวก น้องเลี้ยง บอกให้สามีกลับไปทำงานได้ ส่วนตัวเขาจะพาไปเที่ยวเอง ใช้รถของผมคันเดียวที่เช่ามา ผมจำทางไม่ได้ครับ แต่รู้ว่าขับไปทางสนามบินปีนัง ขับมาได้ซักพักเป็นบ้านที่สร้างตลอดเนินเขา ก็มาถึงทางขึ้นปีนังฮิลล์
ทางขึ้นมีอาคารจอดรถก็ยังใช้ระบบเดิม เข้าที่จอดรถไปกดตู้เอาบัตรออกมา เดี๋ยวตอนกลับก็ไปสแกนค่าจอดชั่วโมงละ 1 RM เหมือนกันทุกที่
ตอนซื้อตั๋วผมจะออกเงินแต่น้องเลี้ยงไม่ยอม ก็เลยไม่รู้ตัวเลขแน่นอนว่าคนละเท่าไหร่ สำหรับผู้ใหญ่ 3 เด็กเล็ก 1 ส่วนหลานอีกคนไม่รู้จะตีความว่าผู้ใหญ่หรือเด็ก เสียเงินทั้งหมด 120 RM ถ้าตีเป็นรายหัวก็คนละ 240 บาทสำหรับการขึ้นรถรางที่ชันมาก
พื้นรถออกแบบให้ขนาดกับพื้นโลก ก็ยืนเบียดกันขึ้นไปได้ไม่ได้ลำบากอะไร ถ้าดูจากภายในก็คล้ายรถเมล์ หรือรถไฟฟ้าคนเยอะเขาจะตัดเป็นรอบให้จำนวนคนไม่ถ่วงน้ำหนักรถมากเกินไป ใช้วิธีเข้าแถวยืนนานมาก เพราะนักท่องเที่ยวเยอะแล้วการเดินทางขึ้นใช้เวลา ผมกะว่าประมาณ 10-20 นาที ผมจำไม่ได้ แต่รถทำความเร็วพอสมควร
หลังจากขึ้นถึงยอดเขาก็มีทางเดินไปจุดชมวิว แล้วก็มีร้านอาหารให้สั่งมีอยู่ร้านเดียวราคาสูงพอสมควร ในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวอาหารก็ประเภทฟาร์ตฟู้ด กาแฟ น้ำดื่ม ประมาณนี้ ผมจำไม่ได้ว่าจ่ายไปเท่าไหร่เพราะมื้อนี้ผมขอออก หลายพันอยู่ เจ้าบ้านยังร้องโอ้โหแพงจัง เขาเองมาอยู่ปีนังเป็นสิบปีก็ไม่เคยขึ้น
วิวที่เห็นบนยอดเขา เนื่องจากปีนังเป็นเกาะ ก็มองเห็นทะเลกว้างๆ กับสะพานปีนังข้ามทะเล 2 แห่ง ผมไม่เห็น NGO ที่นี่มีปัญหา ของไทยคิดอะไรไม่ได้ค้านแหลก
พวกเราใช้เวลาอยู่บนยอดเขาประมาณ 1 ชั่วโมง นอกจากวิวทะเล กับสะพานปีนัง ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ ถ้ามีโอกาสไปก็ไป ไม่มีโอกาสก็ไม่ต้องขนขวาย
หลังจากลงจากยอดเขา ก็ไปกินอาหารเย็นน้องเขาบอกว่าจะพาไปกินอาหารไทย ที่ห้างเกอนี่ พารากอน อยู่ข้างเกอนี่พลาซ่า แถวตลาดโต้รุ่ง ที่นี่มีหมูในเมนู ผมถามว่าเขาจำกัดยังไง ร้านไหนขายร้านไหนไม่ขาย
ถ้าจะขายเมนูหมูต้องขออนุญาตทางการ แล้วจัดเป็นโซนเจ้าของร้านนี้มี 2 แห่งใน 2 ห้าง อีกที่ไม่ได้ขายหมู ให้อิสลามมาทานได้
ร้านชื่อ สุโขทัย เป็นคนจีนมาเลย์ แต่แต่งงานกับสาวไทยเป็นคนสุโขทัย อาหารที่เรากินก็พื้นๆ ของคนไทยกินกัน มีหมูปิ้ง น้ำพริก ไข่เจียวหมูสับ ต้มยำ ประมาณนี้สั่งไปหลายอย่างเหมือนกัน แต่จำเมนูไม่ได้เพราะไม่ได้บันทึกไว้ในขณะนั้น
ส่วนผมก็เอาแต่น้ำปลาพริกเยอะๆ ราดข้าวนอกนั้นก็ไม่ได้กินมาก เพราะรสชาติอาหารก็อย่างว่าเป็นคนกินอาหารรสชาติโลดโผนซักหน่อย
วันนี้กินกันเสร็จก็แยกย้าย ผมเองพยายามไม่นัดเกรงใจเจ้าบ้าน ต้องมาคอยดูแล อีกอย่างผมก็มีรถพร้อมจะขับตะเวณในเมืองไปเรื่อยๆ เห็นตรงไหนจอดได้ก็ลงเที่ยว
ตกค่ำผมก็เดินเล่นหลังโรงแรม ทะเลมืดๆ เพลินๆ ท้องฟ้าเหมือนฝนจะตก ไม่มีใครมาเดิน เดินคนเดียวเขาคงมองไอ้นี่บ้ามืดก็มืดมาเดินอยู่ได้
สวัสดีไว้พบกันบทหน้านะครับ
สาม สอเสือ