9 ตุลาคม 2562

สภาวะบอกไม่ถูก

วนเวียน เวียนวน จนเวียนหัว จริงๆ ช่วงนี้ข่าววนไปวนมา การเมืองก็งั้นๆ แก้รัฐธรรมนูญ เลือกตั้งซ่อม พรบ.งบประมาณที่ต้องผ่านสภา เสียงปริ่มน้ำ พรบ.คอมฯ กอ.รมน.ที่นำโดยทหารแจ้งความจับ นักการเมืองนักวิชาการ แล้วก็ถูกแจ้งความกลับ กองทัพซื้ออาวุธ รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน หนี้ครัวเรือนพุ่ง อสังหาไทยทรุด บ้างบอกมาตรการณ์ LTV ทำให้คนเก็งกำไรหัวหด แต่บางคนบอกกำลังซื้อทรุดไม่รู้ครับไม่ปักใจ

เรื่องที่ผมสนใจจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า เอาไงดี ชิมช็อปใช้ มีทั้งเสียงบ่น และเสียงเชียร์ เฟซ 1 ไปแล้ว กำลังจะทำ เฟซ 2 อันแรกผมหนุนนะอยากให้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคักหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าได้ผลแค่ไหน ตามข่าวอีกนั่นแหละ คนใช้ก็ไม่ควักเงินช่วยสมทบ กลายเป็นเงินที่ใช้คือเงินรัฐ เงินหลวงที่แจก หมุนไปหมุนมาหมุนเข้าห้างร้านใหญ่ๆ รอบเดียวซักงั้น

หลายคนตั้งความหวังเงินน่าจะหมุนซัก 3 รอบ มูลค่าที่เงินภาษีที่โยนลงไปจะได้เพิ่มพูน

บางคนอาจจะไม่เข้าใจเรื่องเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจ อธิบายง่ายๆ แบบไก่เขี้ย รัฐที่เอาเงินมาแจก 1 หมื่นล้าน 10 ล้านคน ถ้าคิดง่ายๆ ก็คือจะได้เป็นภาษี vat คืน 7 ร้อยล้าน นั่นคือ เงินแจกหมุนรอบเดียว

ถ้าเงินมันหมุนซัก 4 รอบ ซื้อกันไปขายกันมา ก็บวกง่ายๆ ก็ 4 หมื่นล้าน รัฐได้เงินภาษีคืน 2.8 พันล้าน ยังไม่รวมภาษีเงินได้ ซึ่งจะไปสรุปกันตอนสุดท้ายอีกที

แต่ที่สำคัญคือพอเงินมันหมุนในระบบมากขึ้น เร็วขึ้นเศรษฐกิจมันก็จะคึกคัก เหมือนประเทศได้รับการหยอดน้ำมันเครื่อง กระฉับกระเฉง พอทุกคนรู้สึกมันขยับอะไรดีขึ้น คนมีเงิน คนรวย ก็เริ่มมั่นใจก็เอาเงินมาใช้ เศรษฐกิจที่ซึมกระทือ มันก็กระชุ่มกระชวย คนเกิดความเชื่อมั่น ก็เกิดการลงทุน

หลายคนที่ตามข่าวการเมืองพ่วงเศรษฐกิจ บ่อยๆ ผมว่านักธุรกิจเขาตั้งความหวังไว้กับการเลือกตั้งใหญ่ทุกคน นักการเมือง พรรคการเมือง ใช้เงินมันกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นกำลังใจโดยตัวมันเอง ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งมันเลยคึกคัก

แต่ครั้งนี้เงียบกระตุ้นยังไงก็ไม่ขึ้น หยอดยา หยอดเงิน ก็แล้วมันไม่ขึ้น คนยังพากันเซ็งเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

อาจเป็นเพราะผลไม่ตรงใจ หรือไม่ก็ผลการเลือกตั้งมันบิดเบี้ยวจนหวังไม่ได้ ก็เลยไม่ค่อยเฮไหนเฮด้วย หลายคนถึงขนาดตั้งความหวัง เอาวะหลังเลือกตั้งน่าจะมีอะไรดีขึ้น ทุกอย่างเฟลหมด

ไม่ต้องพูดถึงอำนาจนะครับ ยิ่งพูดยิ่งโมโห คนทำธุรกิจคนกลางๆ คนไทยผมว่าส่วนใหญ่คิดคล้ายๆกัน ใครจะมาเป็นใหญ่ก็เหมือนกัน เราถูกกรอกหูโกงเหมือนกัน ไม่เคยถามตัวเองซักนิด

จริงหรือวะเหมือนกันเราถูกกรอกหูว่านักการเมืองโกง ที่เห็นกันอยู่ปัจจุบันเรียกว่านักการเมือง แทบสูญพันธุ์ แต่ใครมีอำนาจอยู่โกงลดลงหรือเปล่าไม่รู้

อ่านข่าวเศรษฐกิจ มองการเมืองแล้วไม่สบายใจ มันเหมือนมีความพยายามฟื้นอดีตก่อน 2475 ยังไงไม่รู้ แต่ไม่รู้ว่าจะออกรูปไหน

คนวางแผนทำลายระบบการเมือง เมื่อ 10 กว่าปีก่อนเขาคงไม่คิดว่ามันจะลุกลามบานปลาย แตกแยกกันเละเทะ ประสานกันไม่ได้ แทนที่จะทำลายการเมือง ดันพากันพังประเทศซะนี่ คนรุ่นใหม่ที่ไม่เชื่อไม่ฟัง ยิ่งไปกันใหม่ เพราะเขาก็เชื่อแบบเขา เลิกรักเลิกหวัง ตัวใครตัวมัน เพราะมันไปทำลายอนาคตเค้า

ผมเชื่อว่าประสานกันไม่ได้ ไม่ว่าอีก 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี และผมก็เชื่อเขาก็คิดแบบนั้น จึงยิ่งไปก็ยิ่งกด ระเบียบต่างๆ ก็ต้องกด เพราะมันต้องมีผลแพ้ชนะในรอบนี้

พังหรือเปล่าไม่รู้

โปรด ฟัง และระวังตัวเองเยอะๆ ไม่มียกเว้นใครในประเทศซักคน

สาม สอเสือ