27 สิงหาคม 2561
เราไปจะทางไหนการค้ายุคใหม่
มีหลายคนบอกว่าโลกมันเปลี่ยนไป คนที่ไม่เข้าใจก็คงว่า จะเปลี่ยนได้ไงไม่เคยมีเงินก็ไม่มีเหมือนเดิม ดูพวกนั้นดิรวยยังไงก็รวยเหมือนเดิม คนมีอำนาจก็กลุ่มเดิม ปัญหาก็เหมือนเดิมวนเวียนไปไม่รูู้จบ
หลายปีมานี้อ่านหนังสือเยอะมากโดยเฉพาะ ข่าว บทความ สัมภาษณ์ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ การค้า การตลาด เฉพาะเรื่องการตลาดมันไม่เหมือนยุคเก่า สมัยก่อนตอนยังเรียน การตลาด เขาว่ากันว่าการไม่อัพเดทเรื่องการตลาดแค่ 3 เดือนเราจะเป็นคนตกยุคทันที หมายถึงเราไม่อ่านข้อมูลการตลาดที่มันเปลี่ยนบ่อยๆ
แต่ยุคนี้ยุคอินเตอร์เน็ต โซเชียลมีเดียว่อนไปหมด มันเร็วกว่าเดิมเยอะ เรียกว่ามันเปลี่ยนกันเป็นรายวัน รายสัปดาห์ การไม่อัพตัวเองตลอดเวลายิ่งทำให้เราตกยุคเร็วขึ้น
โลกอินเตอร์เน็ต พอมันเร็วการกลั่นกรองก็น้อย ข่าวลือ ข่าวปล่อย ก็เยอะ คนที่ไม่ภูมิคุ้มกันก็พาลเชื่อเป็นตุเป็นตะ โดยไม่เช็คความแน่นอน
เห็นเยอะแชร์กันทั้งๆ ที่เป็นคนไม่ติดโซเชียล อ่านน้อยมาก เพราะกลัวใจตัวเองเหมือนกันที่จะหลงไปกับมัน เลยเลือกจะเสพข่าวจาก หนังสือพิมพ์หรือเอกสารที่น่าเชื่อถือมากๆ กว่า
อย่างเรื่องที่เกริ่นไว้ที่แชร์ๆ กันกินแก้โรคมะเร็ง เห็นเยอะมากสารพัดวิธี ตั้งคำถามกับตัวเองมันจริงหรือวะ สรุปสุดท้ายข่าวปลอมข่าวมั่วเกือบทั้งนั้น บางทีก็แชร์วนไปวนมาเป็นปีไม่จบไม่สิ้น คนไม่เคยอ่านเจอพอเจอ เฮ้ยจริงหรือบางคนก็เชื่อจนงง แชร์กันต่อเป็นกระแสมาๆ หายๆ
วนกลับมาเรื่องที่อยากเขียน เรื่องการค้าออนไลน์ ถือเป็นยุคใหม่ เร็ว แรง มาเร็วไปเร็ว
ถ้าคนค้าขายออนไลน์ยังทำได้แค่ เจ้านั้นขายเราหามาขายบ้างเพราะเห็นเขาขายดี แต่พอเราเอามาขายบ้าง ทำไมเราขายไม่ดี เรื่องแบบนี้มันก็ต้องขยันหาสินค้าเหมือนกัน เพราะถ้าเอาง่ายเข้าว่าคนอื่นขาย เราขายบ้าง เราไม่ใช่ผู้นำตลาดเสียแล้ว เรากลายเป็นผู้ตามตลาด สินค้าที่ขายบนออนไลน์ มันเปลี่ยนเร็วแม้แต่คนขาย ก็หาของมาฃายเร็ว
โดยเฉพาะพวกหาสินค้าใหม่ๆ มาขายในออนไลน์ บางคนเป็นผู้นำตลาด ขยันหาของ หาของเจอก่อนขายก่อน พอคนเริ่มตามก็ทุบราคาขายให้สินค้าในมือขายหมด ไม่เหลือสต๊อก เอาทุนคืนคนตามเขาถึงบอกขายไม่ค่อยดี เพราะเข้าตลาดเจอดัมพ์ราคาขายก็ตายแล้ว
ถึงแม้ว่ากลุ่มออนไลน์มีคนบอกว่าไม่ต้องเช่าหน้าร้าน แต่คนที่อยู่วงการนี้ ก็บอกยังต้องเสียค่าโฆษณาเยอะแยะไปหมด ผมว่าเสียแพงกว่าเช่าร้านอีก เพียงแต่ผลตอบแทนมันคุ้มค่ากว่าเช่าร้าน เปิดหน้าร้าน
ผมเคยตั้งประเด็นว่า ต่อไปพวกขายส่งจะอยู่ยังไงเพราะปัจจุบัน โลกออนไลน์พวกค้าส่งหน้าใหม่อยู่ข้ามประเทศ มันอยู่ในอินเตอร์เน็ตเช่นกัน แต่ละรายมีทุนเยอะมากมาจากต่างประเทศก็เยอะ ในประเทศก็ไม่น้อย ปัจจุบันคิดจะหาของมาขาย สำหรับพวกค้าปลีกไม่ใช่เรื่องยาก นั่งอยู่กับร้าน อยู่กับบ้านก็สั่งสินค้ามาขายได้ ไม่ต้องเสียเงินค่าเดินทางดูของส่งในตลาดค้าส่งใหญ่ในกรุงเทพ อีกทั้งเสียเวลา ไม่บอกนะครับที่ไหนบ้าง
พอโลกมันเปลี่ยน ทัศนะของคนซื้อสินค้าก็เปลี่ยนไป กว่าจะซื้อของได้ก็ไปอ่านในกระทู้ หรือถามเพื่อน ความเห็นเกี่ยวกับสินค้านั้นเป็นอย่างไร เขาว่า ดารา เน็ตไอดอล ที่ออกมาโฆษณากลายเป็นสิ่งที่คนไม่ค่อยกันเชื่อแล้ว ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่กลายเป็นกระทู้ หรือความเห็นจากเพื่อนคนใกล้ตัวสำคัญกว่า นักการตลาดก็คงมึนเอาไงดี คนทำธุรกิจถ้านั่งลอยๆ ไม่สนใจพาลไม่มีคนซื้อคนใช้บริการด้วยซ้ำ ตกยุคเครียดกันไปโดยไม่รู้ว่าโลกมันไวมาก การค้ามันใช้ความเร็ว
หลายคนวิเคราะห์ว่าคนทุนหนาได้เปรียบ ถึงแม้ว่าจะเป็นการค้าออนไลน์ ผมกลับเห็นต่าง คนตัวเล็กตัวน้อยอัพขึ้นมาไม่ใช่น้อย แต่ไม่เป็นข่าวเท่านั้น เรียกว่ารวยเงียบก็เยอะ แต่ไม่เป็นข่าว ส่วนรายใหญ่เงินหนา เปลี่ยนธุรกิจเขาอาจจะได้เนื้อที่ข่าว แต่ก็ไม่ได้ตอบโจทย์ว่าการค้าเขาจะสำเร็จหรือไม่
อย่างเจ้าของค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ หันเหธุรกิจมาขายเครื่องสำอางค์ เปิดตัวก็ยิ่งใหญ่ตอนนี้ก็เงียบๆ ส่วนเรื่องข่าวทำยอดเท่านั้นเท่านี้ ผมไม่ค่อยเชื่อจะมีเจ้าของกิจการคนไหนบอกสินค้าตัวเองขายไม่ดี ไม่มีหรอกครับมันเป็นการตลาด มันเป็นโฆษณา ทั้งนั้น
ในเมื่อเราตั้งประเด็นการขายสินค้า เรื่องความเร็วบนอินเตอร์เน็ต คนที่ยังตามไม่ทัน หรือไม่รู้ตัวเองว่าต้องทำอย่างไร คงต้องเริ่มค้นคว้าเป็นจุดเริ่มต้น
มีสถาบันสอนการขายของบนออนไลน์เยอะอยู่ อาจจะเริ่มปูพื้นจากตรงนั้นก็ได้ แรกๆ อาจจะไม่สำเร็จ แต่มันเหมือนเป็นการลงทุน ความรู้บางทีก็ต้องซื้อ
เผลอๆ เราอาจจะรู้ว่า เราควรไปทางไหน ในโลกการค้าบนโลกใหม่ ไม่ว่าขายสินค้า หรือบริการ
ต้องฝากไว้อีกอย่างเรื่องแบรนด์กลายเป็นเรื่องสำคัญในยุคนี้ ใครคิดตราสินค้าของตัวเองขึ้นมาอย่าละเลยที่จะไปจด เครื่องหมายการค้าไว้ก่อน ในเมื่อเราเห็นของคนอื่น คนอื่นก็เห็นของเราเห็นเช่นกัน เคยมีบางคนคิดตราสินค้าขึ้นมา โดนคนอื่นเอาไปจดเครื่องหมายก่อน แล้วเอามาฟ้องว่าเราละเมิดก็มี ซวยกันไป
ขอให้โชคดีทุกท่าน โลกการค้ายุคใหม่ เร็ว แรง
สาม สอเสือ