จริงๆ อยากเขียนเรื่องเล่านี้นานมาก อาจเป็นข้ออ้างหาเวลาไม่ได้ อีกข้อก็คือ ไม่กล้าเขียนเพราะกลัวจะไปละลาบละล้วงคนที่ถูกเอ่ยถึง จนเมื่อเร็วๆ นี้มีคำเหล่านี้ถูกโปรยไปในทวิตเตอร์ ผมก็เอ่ยว่าอยากเขียน มีคนมาเฟพผมตีความเองว่าเห็นด้วยแล้วกัน ฮา
ย้อนรอยไปหลายปีก่อนในยุคที่ทวิตเตอร์เริ่มกันแรกๆ บรรยากาศจะไม่เหมือนบนเฟซบุ๊ค เพราะโดยส่วนใหญ่ยุคนั้นเฟซบุ๊ค จะรู้จักกันมาขอเป็นเพื่อน โลกเสมือนกับโลกจริงแทบจะเป็นโลกเดียวกัน ส่วนทวิตเตอร์ จะเป็นเรื่องของการบ่นการพิมพ์คนเดียว ใครเห็นด้วยก็มาตาม มาโฟโล่ยิ่งถ้าเป็นเรื่องการเมืองในยุคนั้นจะกระทบกันรุนแรงมาก ยุคนี้ก็ไม่ต่าง ใครก็สามารถเข้ามาด่า หรือมาตำหนิรุนแรง บางเรื่องเป็นเรื่องไม่ใช่เรื่องด้วยซ้ำ
ตอนนั้นผมรู้จัก กระท้อน ป๋าพัฒน์ กันท์ ทิพย์ หลี โย และอีกหลายท่าน เป็นการพูดคุยเรื่องการเมือง ในสิ่งที่ตัวเองชอบและเป็นแนวทางเดียวกัน บางท่านก็แลกเปลี่ยนเบอร์โทร มีโอกาสได้รับสายเรื่องภาษีบ้างบางท่าน
ทุกอย่างมันพัฒนาผ่านตัวอักษรทั้งสิ้นมีทั้ง ไมตรี และกระทบกระทั่ง ตอนนั้นผมยังมีโอกาสพบ บก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ ท่านมาหาผมถึงออฟฟิศ ในโลกออนไลน์ใครก็รู้จักเป็นคนดัง คนหนึ่งที่แสดงความเห็นได้อย่างแหลมคมทางการเมือง
บก.ลายจุด มาหาผมที่ออฟฟิศผม แล้วบอกสาเหตุอยากเจอเพราะไม่เคยเห็นนักบัญชี เขียนบทความได้ โอกาสที่ผมสั่งซื้อนาฬิกา รำลึกการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 หรือเรียกหมุดราษฎร ทีแรกผมก็งงนะครับ บก.มาส่งนาฬิกาด้วยตัวเอง ผมยังบอกให้ใครมาส่งก็ได้เกรงใจ บก.บอกอยากเจอ อยากคุยก็เลยมีการแลกเบอร์โทรกัน ถามกันโทรถามเรื่องบัญชี
มีอีกครั้งในทวิตเตอร์ มีการพูดคุยกันกลุ่มใหญ่ โดยส่วนใหญ่ก็เป็นกลุ่มชอบการเมืองฝั่งเดียวกัน รู้จักหลายท่านมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางลับบ้าง ทางตรงบ้าง อยู่ๆ การพูดคุยมีผู้ชายอยู่ท่านหนึ่งแสดงความคิดเห็นแหลมคมพอสมควร และมักจะแสดงตัวว่ารู้อะไรลึกๆ บรรดาน้องๆ หลายท่านก็พากันตามอย่างสนุก ผมมักจะถูก แท็คเข้าไปเสมอจนดูเหมือนสนิทมากที่สุดกับท่านนั้น
จนวันหนึ่งมีน้องท่านหนึ่งจากเฟซบุ๊ค ซึ่งในชีวิตจริงก็ไม่รู้จัก มาบอกผมว่าคนนั้นเป็น 18 มงกุฎ โดยบอกขอให้ผมช่วยเตือนในกลุ่มที ผมก็ถามทำไมต้องเป็นผมเขาบอกผมดูน่าเชื่อถือที่สุดในกลุ่ม และเป็นผู้ใหญ่พอ ผมก็ขอดูหลักฐานว่าเขาเป็น 18 มงกุฏยังไง น้องเขาโชว์ภาพแซตการเสียเงินเสียทองดูแล้วหลายคน ไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาวนะครับเกี่ยวกับการเมืองล้วนๆ ในอินบ็อกผมเชื่อในระดับหนึ่งแต่ก็ไม่วางใจใครทั้งนั้น และมีการขอเบอร์โทรคุยกันจริงจัง น้องคนนั้นชื่อ ฟลุ๊ค ถามเรื่องความเสียหายเยอะมากน้อยแค่ไหน กี่คน หลังจากนั้นผมก็เริ่มอินบ๊อกแต่ละคนบอกมีคนเตือน ไม่รู้เชื่อได้มั้ยดูกันเองนะครับ ผมเองไม่ตัดสินใจใคร กลายเป็นว่าบางท่านนึกว่าผมร่วมขบวนการด้วย เพราะเห็น 18 มงกุฎ สนิทกับผมมากแล้วก็ไปอินบ็อก ถามหลายท่านที่รู้ที่ไปที่มากันพอสมควร เรื่องเลยมาเปิดว่าผมเป็นคนเตือนคนแรก และคนนั้นก็เป็น 18 มงกุฎจริง พฤติกรรมเริ่มโผล่
ผมก็เฟดตัวเองออกครับ ไม่ต้องการรับคำชม คำขอบคุณใดๆ ปล่อยให้เรื่องมันจบไป ใครเสียหายก็ไปแจ้งความ แต่ผมไม่ทราบว่ามีการแจ้งความกันหรือไม่ เพราะไม่ได้ตาม
มาช่วง 3 ปีที่ผ่านการเล่นโซเชียล ผมเล่นน้อยลงเพราะมีเวลาจำกันอย่างยิ่ง แต่ก็รู้จักกันไปมาผ่านแล้วก็ผ่านไป มีบางท่านก็ขอเบอร์โทร มีบางท่านก็มาหาถึงออฟฟิศ อย่าง คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.ก้าวไกล มาที่ออฟฟิศผมสั่งซื้อเบียร์คราฟจากน้องท่านหนึ่งชื่อลูกเกด ตอนนี้ก็สมัคร ส.ส.ผมจำเขตไม่ได้แต่รู้ว่าอยู่แถวฝั่งธนฯ คุณวิโรจน์ ท่านอยากมาพบเจอ เพราะตามกันอยู่ในทวิตเตอร์ และเป็นฝ่ายเดียวกันแน่นอน ก็พูดคุยกันอย่างสนุก คือพอเจอหน้ากันมันสามารถละลายบางเรื่องออกได้เลยผ่านการพูด
อีกท่านผมเรียก พี่วิค วิคเตอร์ เกรียงศักดิ์ ศิลากอง ผู้กำกับละครเวทีชื่อดังท่านหนึ่ง แต่ปัจจุบันท่านเสียไปแล้ว มีการพูดคุยกันอย่างสนุกสนาม มีการนัดเจอกันแต่ผมเองไม่มีเวลา เพราะต้องทำงานตลอด ยังเสียใจกับการจากไปของท่านไม่มีโอกาสพบหน้าซักครั้ง
หลังๆ มานี้ผมเฝ้าอ่านมากกว่า ไม่อยากแสดงเห็นความคิดเห็นรุนแรง เป็นการพูดคุยแบบสนุก พูดคุยเฝ้ามองเท่าที่มีเวลา มีบางท่านมาจากสวิสฯ ผมชวนมาออฟฟิศมาพูดคุยกัน ผมเองก็เพิ่งรู้จัก ชื่อ พี่ป้อม ผมมองผ่านวิวสวยๆ ที่พี่เขาไปเที่ยว ภาพสวยในสวิส ผ่านมุมมองท่านที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้น ไม่ใช่จากนักท่องเที่ยวดูแล้วก็แปลกตา จนอยากไปเที่ยวแบบนั้นบ้างกำลังหาโอกาส
ยังมีที่ผมรู้จักแต่ไม่รู้ว่าท่านเหล่านั้นทำอาชีพอะไร ผมเองก็ไม่ควรถามเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น เช่น เหมียว ใหม่ จิน ผมมองภาพน่ารักดี บางทีก็แสดงว่าเห็นแบบพร้อมบวก กับคนที่เข้ามาดูถูก บุคคลิกต่างๆ ถ้าตามกันมานานผมว่าไม่โกหก คนที่คิดจะโกหกในออนไลน์ ถ้าอยู่นานจะจับทางได้ผมเชื่อแบบนั้น สาวๆ เหล่านั้นจะมีสีสันในชีวิตส่วนตัวมากบ้างน้อยบ้างเป็นปกติ
ยังมีอีกหลายท่านคุยกันผ่านตัวอักษร แต่ผมไม่รู้จักชื่อ ก็เลยไม่ได้เขียนถึง มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย
ชีวิตบนออนไลน์ เข้ามาเล่นมาพักผ่อน ไม่แสดงความคิดเห็นรุนแรง เฝ้าอ่านเฝ้ามอง
คือถ้าแสดงความคิดเห็นรุนแรงผมว่าไม่ค่อยสนุก จะทะเลาะกันมากกว่า โอกาสถ้าเจอกันในชีวิตจริงเผลอๆ มีเรื่อง
ผมเองก็ถูกกระแทกใส่บ่อยๆ แต่อาศัยไม่ตอบมองผ่าน ไม่บล็อก ปล่อยให้ความเห็นเหล่านั้นลอยไป
ขนาดแสดงความคิดเห็น ใสๆ แล้วนะเนี่ยยังมีคนมาพร้อมบวก สวัสดี
สาม สอเสือ