ฮีโร่โอลิมปิก
หลายวันมานี้มีความสุขกับการนั่งดูโอลิมปิกเกมส์ ผมดูข่าวกีฬา ผมดูทุกอย่างที่เกี่ยวกับกีฬา ดูการแข่งขันกีฬาเกือบทุกประเภท ไม่จำเป็นต้องมีนักกีฬาไทยแข่ง ผมดูความมุ่งมั่นของนักกีฬา ดูแววตานักกีฬาขณะแข่งขัน ดูแววตาของการได้รับชัยชนะ ดูแววตาสำหรับผู้พ่ายแพ้ในการแข่งขัน ดูแววตาผู้ชนะขณะรับเหรียญรางวัล เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว ชอบมากที่สุดก็คือช่วงที่โทรทัศน์ตัดภาพสวยของการแข่งขันคลอด้วยเสียงเพลง ผมดูด้วยความดื่มด่ำ บางครั้งถึงกับน้ำตาคลอกับความสำเร็จ และความผิดหวังของนักกีฬาหลาย ๆ คนผมดูทุกช่อง ถ้าหากโทรทัศน์ช่องไหนพูดถึงการเมืองผมจะปิด หรือเปลี่ยนทันที ไม่อยากรับรู้รับฟัง
ขอบคุณ สมจิตร จงจอหอ ฮีโร่เหรียญทองจากมวยสากลสมัครเล่น ผู้มุ่งมั่นถนนโรยด้วยคราบน้ำตาตลอด 12 ปีผู้เคยผิดหวังและท้อแท้ ถ้าหากเมื่อ 4 ปีที่แล้วไม่ได้กำลังใจทั้งจากตัวเอง และคนรอบข้างวันนี้ประเทศไทย จะไม่มีฮีโร่ที่ชื่อ สมจิตร
ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ฮีโร่เหรียญทองจากยกน้ำหนัก 8 ปีที่รอคอย ฮีโร่ที่เคยบาดเจ็บหัวเข่าอย่างรุงแรง จากการแข่งขันจนแทบจะหมดกำลังใจ แต่ก็มุ่งมั่นฝึกซ้อมชนะใจตนเองจนสามารถกับมาเป็นฮีโร่ของคนไทย
บุตรี เผือดผ่อง ฮีโร่เหรียญเงินจากเทควันโด “น้องสองผู้น่ารัก” ประทับใจทุกครั้งที่ได้เห็นจากจอทีวี เธอน่ารักเธอสดใส “น้องสอง” ยังสามารถเป็นกำลังใจให้กับ คุณแม่ที่เป็นมะเร็งสามารถกลับมาหายป่วยได้
มนัส บุญจำนงค์ ฮีโร่เหรียญเงินจากมวยสากลสมัครเล่น ฮีโร่ผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของคนไทย ที่คว้า 2 เหรียญรางวัล 1 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน จากโอลิมปิก 2 สมัย ฮีโร่ผู้เกเร แต่สามารถกลับเนื้อกลับตัวจนเป็นผู้เปิดบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของคนไทย แค่เหรียญรางวัลเหรียญใดเหรียญหนึ่งจากโอลิมปิกเกมส์ ก็แทบจะเป็นความฝันของนักกีฬาทุกคนที่ยากมาก แต่ มนัส สามารถคว้าได้ถึง 2 เหรียญเป็นฮีโร่ เหนือฮีโร่ ผู้ยิ่งใหญ่ ก็ได้แต่หวังว่าสักวันประวัติศาสตร์หน้านี้คงจะมีนักกีฬาไทยเปิดเพิ่มแบบไม่รู้จบ
รวมทั้งนักกีฬาไทยทุกคนที่ร่วมแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ ถึงแม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้เหรียญแต่ก็เป็นฮีโร่ของคนไทยทุกคน
ขอบคุณที่ทำให้ 16 วันของการแข่งขันเป็นวันที่คนไทยมีความสุข และสามัคคีกันทั่วประเทศ ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่ได้เห็นกว่า 2 ปี
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา โอลิมปิกเกมส์ ปิดฉากคนไทยชื่นมื่น ฮีโร่ไทยเดินทางให้สัมภาษณ์ตามรายการต่าง ๆ ผมนั่งจับจ้องทีวีเกือบทุกช่อง ทุกคนรับกรรมดีที่ตัวเองก่อ
เหมือนกินข้าวตามร้านอาหารเมื่อกินอาหารเสร็จ ก็เรียก เก็บตังค์บ้าง เก็บเงินบ้าง ภาษาวัยรุ่นบางคนเรียก คิดค่าเสียหาย ซึ่งเป็นการคิดค่าเสียหายที่เจ้าของร้านอาหารยิ้ม บางท่านเรียก เช็คบิล ก็เป็นอันสิ้นสุดของอาหารมื้อนั้น
ข่าวกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่งกำลังเข้ายึดพื้นที่หลายแห่งทางราชการ รวมทั้งสถานีโทรทัศน์กรมประชาสัมพันธ์ หรือ NBT ทำลายข้าวของราชการ และบอกว่าเป็นการเป่านกหวีดรวมพลครั้งสุดท้าย ทุกคนบอกตรงกันว่าเป็นการคุกคามสื่อ แต่น่าแปลกสภาการหนังสือพิมพ์ และอีกหลาย ๆ ที่ในวงการข่าว ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ ไม่มีใครออกหนังสือประณามกันสักคน
ย่อหน้าที่แล้วขออภัยเพราะเขียนถึงประมาณ บ่าย 2 เพิ่งจะมาได้ยินว่ามีการแถลงข่าวจากสมาคมสื่อฯ 3 สมาคมร่วมกัน ประณามการใช้กำลังทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ประมาณ บ่าย 4
ก็ได้แต่หวังว่ากระบวนการยุติธรรม น่าจะสร้างความเป็นธรรมให้แก่สังคม ในสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้สร้างความเสียหายลงไป
ช่วยเช็คบิล ด้วยนะครับเช็คบิลทุกคน ที่ร่วมกันสร้างความเสียหายเช็คบิลด้วยกฎหมาย แต่อย่าใช้ความรุนแรง ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ เพราะงานนี้ที่เจ้าของความเสียหายไม่ได้มีรอยเปื้อนยิ้ม เหมือนร้านอาหาร
บันทึกไว้ 26 สิงหาคม 2551
สาม สอเสือ