พลังสมอง

หลายเดือนมานี้พลังสมองรู้สึกหายไปเยอะคิดอะไรไม่ออก อาศัยอ่านหนังสือเยอะแยะไปหมด เพราะเคลียร์ใจเพิ่มพลังสมอง ทำแล้วทำอีกก็ไม่ได้ผล หาเหตุผลไม่เจอรู้ว่า มนุษย์ มีสมองซีกซ้ายซีกขวา

สมองซีกซ้าย จะคิดเรื่องการวิเคราะห์ และเหตุผล สมองซีกขวา จะใช้ความรู้สึก และอารมณ์ จินตนาการ มีแพทย์ท่านหนึ่งกล่าวว่า คนเราจะใช้สมองซีกซ้ายมากกว่า ใช้การวิเคราะห์หาเหตุผลมากกว่า ใช้ความรู้สึกและอารมณ์

ผมเองมักจะถูกถามจากลูกค้า ให้ช่วยวิเคราะห์โดยเฉพาะภาษี ในยุคที่รัฐปิดหีบไม่ลงต้องกู้เพิ่ม อาการหนักถึงขั้นกู้มาแจก ถูกผิดไม่บอกแล้วกันเดี๋ยวจะเป็นเรื่องการเมือง

พอถูกถามเยอะเรื่องภาษี และวิเคราะห์ว่าแบบนี้สรรพากรจะตรวจเจอมั้ย

คำตอบที่ผมมักจะให้คือวิเคราะห์แล้วมีความเสี่ยง ผมจะไม่คาดเดาเด็ดขาดและคาดการณ์ล่วงหน้า เพราะผิดพลาดไม่เป็นไปตามคำพูด จะมาต่อล้อต่อเถียงกัน แต่ก็เข้าใจความรู้สึกการค้าในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะบนออนไลน์ ราคาเป็นปัจจัยสำคัญที่นำมาแข่งขัน เพราะอัลกอริทึมระบบจะทำมาเปรียบเทียบราคาให้ทันที ร้านนี้เท่าไหร่ บริษัทนั้นค้าสินค้าประเภทเดียวกันราคาเท่าไหร่ ใครแพงใครถูกกว่า โดยไม่มีการคิดถึงบริการหลังการขาย

ทั้งๆ ที่เรื่องราคาสมัยที่เรียนการตลาด เขาสอนกันเสมอว่า กลยุทธลดราคาเป็นเรื่องต้องห้าม หรือเป็นเรื่องสุดท้ายที่จะสู้กัน เพราะวันหนึ่งจะขายกันไม่เหลือกำไร สุดท้ายขาดทุนเพราะมีสิ่งที่เราจ่ายและไม่เคยคิดต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายเข้ามาบวกเพิ่ม

ผมเองไม่รู้ว่าใช้สมองซ้าย หรือสมองขวาในการตอบ เพราะงง แต่ต้องตอบและก็เข้าใจต้นสายทุกครั้ง ไม่ว่าโทรศัพท์ โทรไลน์ หรือพิมพ์ไลน์มาถาม

แต่สิ่งที่เข้าใจได้คือ สรรพากรไม่สนใจ ไม่ว่าเราจะขายกำไรหรือขาดทุน เราก็ต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือภาษีเงินได้ ไม่ว่าบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล ก็เช่นเดียวกัน เคยคุยกับเจ้าหน้าที่สรรพากรมาหลายราย

บางท่านก็บอกว่าเข้าใจแต่ไม่รู้ทำยังไง เพราะระบบงานมาแบบนี้ต้องหาภาษีและรายได้เข้าหลวง และถูกกดดันเสมอ ก็ธรรมดานะครับเจ้าหน้าที่ราชการกินเงินเดือนหลวง หน้าที่หาเงินภาษีเข้ารัฐ ถ้าไม่ทำหน้าที่ก็ต้องลาออก ซึ่งก็ไม่ใช่เหตุผลที่ต้องลาออกเพราะไม่ใช่นักบุญทุนชาวบ้าน แต่เป็นหน้าที่ และแรงกดดันในระดับชั้นก็สูงมาก เป้าที่ถูกตั้งไว้ในแต่ละเดือนในแต่ละปี

ไม่เฉพาะเรื่องภาษีอย่างเดียวที่ถูกถาม แม้แต่เรื่องแรงงานก็ถูกถาม การให้พนักงานออก พนักงานหยุดโดยไม่มีเหตุผล และอื่นๆ เรื่องเหล่านี้ยังต้องตอบทั้งๆ ที่ไม่ใช่นักกฎหมาย เคยถามทนายบางคนเกี่ยวกับ กฎหมายแรงงาน เขาบอกนายจ้างสู้ยาก ขั้นตอนต้องเป๊ะมาก ทางที่ดีโทรถามนิติกรกรมแรงงานดีกว่า แต่ก็ไม่ใช่เขาจะบอกหมด จริงๆ ต้องหาความรู้เองเกี่ยวกับกฎหมายแรงงาน กฎยิบย่อยมาก

พอถูกถามเยอะหลายๆ เรื่องสมองใช้งานหนัก ก็เบลอนอนไม่หลับใช้แอลกอฮอร์ช่วยให้หลับประจำ รู้ว่าไม่ดีแต่ก็ไม่รู้ทำยังไง

เคยนะครับเพราะรู้ไม่ดีเรื่องดื่ม ก็นอนเลยขยับไปขยับมาเกือบเช้าไม่รู้ว่าคิดอะไรนักหนา หรือ สมองซ้ายขวามันวิวาทกัน

ใช้หูฟัง ใจคิดตามเพื่อให้ได้ยินทุกคำถามมันคืองานบริการอย่างหนึ่ง เคยตั้งข้อสังเกตุจิตแพทย์ จะนอนหลับมั้ยเพราะฟังแต่เรื่องราวปัญหา คนที่มาปรึกษาตลอด หรือบางท่านสามารถตัดวงจรสมองแล้วพักได้เลย ต้องถือว่ายอดเยี่ยมมาก อยากเลียนแบบแต่หาต้นแบบที่เหมือนกันไม่ได้

ไม่รู้ว่าอาชีพแบบผมคนอื่นเป็นแบบนี้ ตอบคำถาม ซึ่งผมก็ยินดีนะครับ กับลูกค้า และก็เข้าใจความรู้สึก แต่ก็ใช้พลังสมองเยอะมาก

บันทึกไว้ 16 กันยายน 2567

สาม สอเสือ