เรื่องมีอยู่ว่าช่วงนี้ ต้องทำใจเพราะ รัฐบาลเร่งหารายได้ มาปิดหีบเพื่องบประมาณมาพัฒนาประเทศ แล้วจะหารายได้เป็นกอบเป็นกำจากไหนถ้าไม่ใช่จากภาษีอากร ปัจจุบันทีมกำกับดูแลจากกรมสรรพากร หรือทีมล่าก็ออกปฏิบัติการถอนขนห่าน จนห่านไม่มีขนให้ถอนอีกแล้ว บังเอิญวันนั้น เจ้าหน้าที่กำกับก็ไม่รู้จะหาเงินให้เข้าเป้าได้อย่างไรนัยว่า เจ้านายสั่งมา ถ้าไม่ได้เข้าเป้า สงสัยจะโดนหวดหลังลาย
เหนื่อยสายตัวแทบขาดทั้งเจ้าหน้าที่สรรพกร และห่าน เจ้าหน้าที่ถึงกับโอดครวญว่า ช่วยร้องเรียนอธิบดี / นายกฯ / รัฐมนตรี หรือใครก็ได้ (เหนื่อยโว้ย) ห่านปัจจุบัน ไม่มีปลาให้กิน ลอยคอกินเกลือกันเป็นแถบ หัวหน้าสรรพากร เอาแต่หน้า (เจ้าหน้าที่ว่ามาเอง คนเขียนเปล่าพูด) ทำงานต้องเข้าเป้า นัยว่า โยกย้ายครั้งหน้าตำแหน่งคงต้องใหญ่ขึ้น เพราะหาเงินซื้อ CTX ได้หลายเครื่อง
มาไกลไปหน่อยวกกลับมาเรื่องเดิม ทีมถอนขนห่านก็ไม่รู้จะทำอย่างไรให้เข้าเป้า จึงสั่งห่านว่า ให้คุณดึงค่าใช้จ่ายออก เพื่อจะได้กำไรและต้องจ่ายภาษี (ทั้ง ๆ ที่จ่ายจริงในการทำงาน) ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (กิจการเป็นประเภทบริการ) ที่ลูกค้าหักคุณเอาไว้ห้ามเอามาใช้ (ตามมาตรา 3 เตรส 69 ทวิ 69 ตรี และ 65 จัตวา แห่งประมวลรัษฎากร)
ผลขาดทุนสุทธิที่มีสิทธินำมาหักตามกฎหมาย 5 รอบบัญชี ไม่ให้นำมาหักกำไรในรอบบัญชีนี้ เสียภาษีมาซะดี ๆ ขู่ซะ เล่นเอาห่านขวัญหนีดีฝ่อ เพราะเจ้าหน้าที่ ไม่ดูกันแล้วกฏหมายให้สิทธิอะไรกับห่านไว้บ้าง ขอภาษีอย่างเดียวพอ ห่านพูดในใจ ปัจจุบันแค่มีข้าวกินทุกมื้อให้อิ่มท้องก็พอแล้ว เรื่องฟุ่มเฟือยไม่ต้องพูดถึง ไม่ต้องอดมื้อกินมื้อก็บุญโข
สุดท้ายนี้ห่านหลายตัวก็ได้แต่อธิษฐาน ขอให้เทวดา ทักษิณ ช่วยด้วย ไม่รู้ว่าคำอธิษฐานจะได้ผลหรือไม่ เพราะเทวดา ทักษิณ ก็กำลังมึนเหลือกำลังกับเรื่องเศรษฐกิจ น้ำมันแพง ค่าแรงถูก เรื่องนี้เป็นกรรมของห่าน กับเจ้าหน้าที่ถอนขนห่าน
สาม สอเสือ