หลายคนบอกกันว่าทำสำนักงานบัญชีที่ดีที่สุด บางเรื่องก็จริง บางเรื่องก็ไม่จริง สำนักงานบัญชี รายได้หลักก็มาจากลูกค้า เป็นค่าบริการรายเดือนบ้าง
ราย 6 เดือนบ้าง ราย 1 ปีก็มี สำนักงานบัญชีก็หนีไม่พ้นสภาวะเศรษฐกิจเหมือนเช่นงานอื่น ๆ ลูกค้าหลายรายเริ่มบ่น การค้าหดหายเงินที่เคยมี เคยใช้ก็เหลือน้อย
ราย 6 เดือนบ้าง ราย 1 ปีก็มี สำนักงานบัญชีก็หนีไม่พ้นสภาวะเศรษฐกิจเหมือนเช่นงานอื่น ๆ ลูกค้าหลายรายเริ่มบ่น การค้าหดหายเงินที่เคยมี เคยใช้ก็เหลือน้อย
แม้แต่ว่าจ้างสำนักงานบัญชี ปีที่ผ่านมาถือว่ากระทบพอสมควร เพราะลูกค้าไม่มีเงินจ่าย ไม่ว่าค่าทำบัญชี ค่าผู้สอบบัญชี เราก็ประเภทเห็นใจจนต้องมาเจ็บใจอยู่ทุกวันนี้ ผมเองก็ไม่ อยากเอ่ยถึงว่าเป็นบริษัทไหนบ้างแต่เอาว่าโดนมาเหมือนกัน อย่างเช่นมีอยู่ 2 บริษัทไม่ได้ปิดงบการเงินมาตั้งแต่ปี 2546 และ 2547 ทำให้ต้องปิดงบพร้อมกัน 2 บริษัท 4 งบฯ เราก็ดูว่าฐานะของลูกค้าก็น่าจะพอไปได้ แต่งตัวออกจากไฮโซ ทุนจดทะเบียนก็ประมาณ 30-40 ล้านทั้ง 2 บริษัท ตีราคาค่าบริการไปเรียบร้อย พร้อมค่าเซ็นงบการเงิน ลูกค้าก็พอใจว่าไม่แพงมากนัก ตกลงจ่ายส่วนหนึ่งก่อนก็ประมาณ 1 ใน 3 ที่ราคาทั้งหมด ส่วนที่เหลือให้ทยอยจ่าย จนกระทั่งส่วนของผู้สอบให้จ่ายครั้งสุดท้าย หลังจากกรรมการเซ็นงบเรียบร้อย ฝ่ายบัญชีก็ทำงานกันไปเรื่อย (เร่ง) เพราะต้องยื่นงบให้ทันกำหนดเวลา ฝ่ายทวงถามก็ ทวงกันไป ก็บ่ายเบี่ยงกันเบื่อ เราก็ไม่ยอมหยุดแทนที่จะหยุดทำงาน กลับให้ฝ่ายบัญชีเร่งปิดงบให้เสร็จ เพราะเดี๋ยวลูกค้าจะมีปัญหา ส่งงบไม่ทันอีก จนกระทั่งปิดเสร็จเรียบร้อย ก็นัดให้กรรมการมาตรวจและเซ็นงบ ก่อนจะส่งให้ผู้ตรวจสอบบัญชี กรรมการแจ้งว่าค่าใช้จ่ายที่เหลือ (มาก) ขอเวลา 1 สัปดาห์ เราก็ใจดีผู้สอบเซ็นเสร็จ ก็ส่งงบให้เรียบร้อยทั้งกระทรวงพาณิชย์ และสรรพากร ส่วนฝ่ายตามหนี้ก็โทรกันจนอ่อนใจ 2 เดือนกว่าแล้ว ไม่มีวี่แววจะได้เงิน ผู้สอบถอนรายชื่อ
ก็ไม่ทัน ค่าใช้จ่ายเรามีไปแล้วแต่รายรับหด
ก็ไม่ทัน ค่าใช้จ่ายเรามีไปแล้วแต่รายรับหด
อีกเรื่องเป็นบริษัท รปภ. มาเหมือนกัน 4 งบรายได้เยอะ แต่ไม่รู้ว่าเงินไปไหนหมด กำลังถูกฟ้องอีรุงตุงนัง ทั้งจากแบงค์ และถูกบี้จากสรรพากร ภาษีมูลค่าเพิ่มปีเก่า ๆ ก็ไม่ได้จ่าย หัก ณ ที่จ่ายก็ไม่ได้จ่าย เราก็ใจดีเหมือนเดิมคิดถูกแสนถูก ให้ผ่อนได้อีกเพราะกรรมการไม่มีเงิน ลงบัญชีเรียบร้อย เอางบทดลองมาดู (ร้องว่าตายแน่) รายได้หลาย 10 ล้านไม่มีค่าใช้จ่ายมาตัดเลย ลำพังแค่ไม่ถึงหมื่นยังหาไม่ได้ แล้วลองคิดถึงภาษีเงินได้จะทำอย่างไร กรรมการบอกกับเราว่าถ้าสรรพากรฟ้อง จะทำอย่างไร เราก็เป็นใบ้ (คิด…จะทำอย่างไรได้ก็ปัจจุบันพี่ก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว) คิดแล้วกลุ้มไม่ได้เงินเหมือนเดิม
บริษัทเปิดใหม่อีก 1 แห่งช่วงแรกคิดโปรเจกมากมาย ทุกอย่างใช้เงินหมด เราก็บอกว่าใจเย็น ๆ ให้กิจการหลักทำรายได้ให้เราแข็งแรงก่อน ค่อยคิดถึงกิจการอื่นกรรมการบริหารท่านนั้นก็ไม่พอใจ หาว่าดวงคนจะรวยทำไมต้องมาขัด ถึงขนาดว่าถ้าคุณไม่เห็นด้วย เราก็จะเปลี่ยนสำนักงานบัญชี (ก็เลยใบ้กิน) ใจก็ไม่อยากเสียลูกค้า อีกใจก็
อยากเตือน สุดท้ายไม่เตือนแล้วจนถึงวันนี้ลูกน้องออกหมด ที่ลงทุนไปล้านกว่าบาทเหลือคอมพิวเตอร์มา 2 เครื่อง ค่าบริการทำบัญชีรายเดือนไม่จ่าย จนถึงวันนี้ 6 เดือนแล้ว
เปิดบริษัทไม่ถึงปี ไปซะแล้วเครียดเหมือนเดิม เงินไม่ได้
สาม สอเสือ