ด้วยความเป็นเจ้าของกิจการ เลยค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในอนาคตพอสมควร  ติดตามหนังสือพิมพ์แบบใกล้ชิดไม่ได้ลำบากในการอ่าน เพราะเป็นคนอ่าน หนังสือพิมพ์ต่อเนื่องยาวนาน วันละไม่น้อยกว่า 2-3 ฉบับ

ตั้งแต่เริ่มชีวิตกับโควิด ปี 2019 ปลายปีที่ประเทศจีน ไม่คิดว่าผลกระทบรุงแรง จนโควิด กระจายไปทั่วโลกผลกระทบเริ่มเห็นชัด อีกทั้งการทำงานสำนักงานบัญชี สัมผัสลูกค้ามากมาย เห็นผลกระทบพอสมควร โดยเฉพาะกิจการที่ยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปบนออนไลน์ เรียกว่าพังพาบกันเป็นทิวแถว

ส่วนบนออนไลน์ยังพออยู่กันได้ค้าขายพอได้เงิน ไม่ถึงกับฟู่ฟ่าแต่ก็ประคองธุรกิจผ่านไปได้ มากระทบรุนแรงตอนจีนปิดประเทศ ไม่มีสินค้าขาย ช่วงนั้นวุ่นพอสมควร เพราะค่าใช้จ่ายอื่นซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายประจำยังอยู่ครบ โดยเฉพาะเงินเดือนพนักงาน บางรายต้องควักเงินมาประคองกิจการ จ่ายเงินเดือนลูกน้องครบ จนลูกน้องสงสาร แต่ผู้ประกอบการบอกลูกน้องยังประคองไปได้ เพื่อไม่ให้ลูกน้องเดือดร้อน เป็นเจ้านายที่สุดยอดรายหนึ่ง

จนสถานการณ์ผ่านพ้น มาช่วงปลายโควิดที่ทั่วโลกอัดฉีดเงินเข้าระบบอย่างมหาศาลในอดีต โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ช่วงนั้นก็มีส่งสัญญาณกันมาแล้วเกือบปี ว่าหลังจากจบโควิด จะเกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรงเพราะเงินมันท่วม

ดันมาเจอสถานการณ์ รัสเซีย บุก ยูเครน ไปอีกซ้ำสถานการณ์ คนที่วิเคราะห์ว่าเงินจะเฟ้อ เศรษฐกิจต่อต่ำเลยทำนายถูกซะงั้น

มาช่วงหลังไม่กี่วันมานี้ มีวิเคราะห์กันอีก เศรษฐกิจจะถดถอยทั่วโลก ประมาณกลางปี 2566 หรือ 2023 ผลจากทุกอย่าง ณ การกระทำวันก่อน และวันนี้จะไปปรากฎผลใน 6 เดือนของปีหน้า

เอาละซิเอาไงกันต่อวะเรา ไม่ต้องคิดถึงคนอื่น คิดถึงตัวเองและคนแวดล้อม จะผ่านไปได้มั้ย

กังวลนะไม่ใช่ไม่กังวล ด้วยความไม่ประมาท

แล้วมองหาเหตุผลที่จะผ่านไปได้ แบบไหนอย่างไร หรือจะไม่กระทบเราเลย คิดไปเรื่อย

เพราะที่ผ่านมาไม่ถูกกระทบจากโควิด พอประคองรอดมาได้

การเมืองไทยดันมามั่วอีก อยู่หรือไป หรือจะเลือกตั้งใหม่

ใจผมอยากให้เลือกกันใหม่ ผู้บริหารประเทศชุดนี้พิสูจน์มาแล้ว 8 ปี ทุกคนรู้หมดว่าเป็นอย่างไร จะพูดไม่พูดเท่านั้น

สำหรับผม บิ๊กตู่ ไปเหอะบ้านเมืองพังพินาศกันหมดแล้ว เพราะอยากอยู่ในอำนาจยาวนาน

สาม สอเสือ