6 เมษายน 2563

เว้นระยะกันซักพัก

ช่วงที่ผ่านมากับ สถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ที่ออฟฟิศก็ค่อนข้างกังวล ความกังวลค่อยๆ ไตร่ระดับเพราะความไม่ชัดเจนของภาครัฐ ไม่ว่าประกันสังคม ภาษี งบการเงิน ที่ใกล้กำหนดระยะเวลาขึ้นมา

โดยเฉพาะสถานการณ์เรื่องภาษีที่ต้องนำส่งให้ลูกค้าทุกเดือน แรกๆ ก็พาลนึกกันว่าจะให้ชะลอการนำส่งภาษีไป 3 เดือนพร้อมกันหมด แต่ก็เปล่ารัฐยกเว้นเฉพาะกิจการที่ได้รับผลกระทบ

ช่วงกำลังเขียนก็มีข่าวจากกระทรงการคลัง ให้เลื่อนการจ่ายภาษีไปพร้อมกันทั่วประเทศ เริ่มจากภาษีเดือนมีนาคม และ เมษายน ให้เลื่อนไปจ่ายพร้อมกันในเดือนพฤษภาคม โดยไม่มีค่าปรับ ตอนนี้ผมก็แนะนำลูกค้าบางราย ใครพอมีกำลังก็ให้จ่ายไปตามปกติ เพราะไม่อย่างนั้นจะไปจ่ายภาษีรวมกัน 2 เดือน ปกติเดือนต่อเดือนก็แทบจะเป็นภาระกันอยู่แล้ว ถ้าไป 2 เดือนรวมกันจะไหวมั้ย ถ้าไหวก็โอเค

ลูกค้าหลายรายขอจ่ายภาษี ตามปกติเพราะกลัวต้องไปจ่ายก้อนใหญ่ ผมก็ทำให้ได้ทั้งนั้น

ตอนนี้ประเมินสถานการณ์ตัวเอง ด้วยความที่เป็นสำนักงานบัญชี เป็นตัวกลางระหว่างภาครัฐ กับ เอกชน (ลูกค้า) ที่ต้องนำส่งภาษีทุกเดือน

ความเป็นตัวกลางยิ่งทำให้กังวลมากขึ้น ป้องกันตัวเองมากขึ้นไม่อยากให้อยู่ในสภาวะถูกล็อกดาวน์โดยภาครัฐ จะทำงานกันไม่ได้แต่ลูกค้าไม่ได้ถูกล็อกไปด้วยจะเป็นยังไงต่อ

ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาลูกค้าที่แนะนำกันมา ก็อยากมาเข้าพบเพื่อพูดคุย ผมก็บอกถ้ามั่นใจก็ส่งเอกสารมาเลย ผมทำให้การพูดคุยไม่ได้มีปัญหา ทั้งโทรศัพท์ ทั้งไลน์ เราคุยกันได้อยู่แล้ว

เรื่องปัญหาความไม่เข้าใจ การทำบัญชีอย่างไร ภาษีอย่างไร เอกสารแบบไหน ก็สามารถแนะนำผ่านไลน์ ผ่านโทรศัพท์ ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันได้ไม่ยาก

ความไม่ชัดเจนของภาครัฐจะเอายังไงต่อ ทั้งปิดห้าง ปิดกิจการ จนถึงเคอร์ฟิว เป็นเวลา จนลือกันไปทั่วว่าจะเคอร์ฟิวทั้งวัน เศรษฐกิจกระทบหนัก

กรุงเทพสั่งปิดห้าง ปิดการใช้ชีวิตประจำวัน แต่มาตรการณ์ก็ไม่ชัดเจนคัดกรองกันอย่างไร เมื่อไหร่จบเมื่อไหร่เสร็จ ไม่มีเวลาแน่นอน

นักธุรกิจใหญ่ ออกมาถามเรื่องระยะเวลาถึงเมื่อไหร่ เขาจะได้เตรียมตัว

ภาครัฐก็ไม่พูดมีแต่คำขู่ ถ้าหยุดโควิด-19 ไม่ได้ ก็จะปิดต่อ มันโคตรง่ายเลยการบริหารแบบนี้ กว่าโควิดจะหยุด กิจการ ลูกจ้าง คนตกงานรวมทั้งนักศึกษาจบใหม่ มีคนประเมิน ไว้ไม่น่าจะต่ำกว่า 5-6 ล้านคน ที่จะตกงาน

ผลกระทบทางสังคมยังตามมาอีกเยอะ

กิจการลูกจ้างตกงานพร้อมๆ กัน ผลกระทบที่จะเกิดโดยทันที คือหนี้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นมหาศาล หนี้เสียเพิ่มขึ้น NPL บานสะพรั่งประวัติบูโร ถูกเก็บไว้ 3 ปี

ธนาคารเองก็เป็นหน่วยงานเอกชน มีทุน มีผู้ลงทุน มีพนักงาน มีค่าใช้จ่ายเช่นเดียวกัน

เขาจะอุ้มกันยังไงเขาไม่ใช่ภาครัฐที่มีเงินจากภาษีทุกเดือนทุกปี แปรเป็นงบประมาณประเทศใช้จ่ายกันสนุกสนาน

ภาครัฐบางตำแหน่งที่ไม่ต้องทำงานช่วงนี้ คนชี้เป้าไปที่ ส.ว. แต่ก็ยังกินเงินเดือนหลักแสน หลักหลายแสน ประชาชนมองตาปริบๆ เพราะไม่มีกินไม่มีรายได้

แล้วไอ้การที่พูดว่า รัฐบาล รับมือดีที่สุดแล้วเพราะนี่คือครั้งแรก ตอน ไวรัสเมอร์ส ไวรัสซาร์ส โรคไข้หวัดนก H5N1 ที่ระบาดทั่วโลก นั่นก็ครั้งแรกนะครับใครเป็นรัฐบาลก็รับมือกันครั้งแรกทั้งนั้น มีนักวิชาการระดับท๊อปๆ ของไทย เขาก็บอกว่ารัฐบาลนี้ไร้ประสิทธิภาพทั้งนั้น ยกเว้นที่เชียร์กันเอง

การที่บอกว่ารับมือดีที่สุดแล้ว เพราะเป็นครั้งแรกของโลก เป็นคำพูดที่ปัดความผิดตัวเองล้วนๆ

ไม่ได้อยากเขียนแรง แต่อยากบอกทุกคนที่ยังไม่มีผลกระทบระหว่างนี้ ให้มองไปไกลๆ มองอนาคตว่าถ้ากิจการกระทบ จะทำยังไงเก็บตัวเก็บแรงเก็บเงินสด ไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

เว้นระยะห่างกันซักพัก ป้องกันตัวเองให้นานที่สุด

ขอให้ทุกท่านสุขภาพแข็งแรง บาย

สาม สอเสือ