เที่ยวปากเซ ตอน 1 ตาดเฮือน ตาดฟาน ผาส้วม 10-11 เมษายน 2561
วนเวียนอยู่กับเรื่องเที่ยวซักพัก ใจก็อยากเขียนเรื่องอื่น จนแล้วจนรอดไม่เอาดีกว่า ไว้สถานการณ์ดีๆ ค่อยกว่ากันอีกเรื่อง
ส่วนเรื่องงานของสำนักงานบัญชี ก็ไม่รู้ว่าจะเขียนเรื่องอะไร เพราะมันก็วนเวียนอยู่โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในหัวไม่เปิดเผยดีกว่า บางครั้งการนำเรื่องลูกค้ามาเล่ามันไม่ดีแน่ เพราะมันเป็นความลับของลูกค้า
เดือนเมษายน ช่วงวันหยุดยาวบริษัทหยุดยาวเลย เพราะทุกคนก็อยากกลับบ้าน ก่อนจะไปเที่ยวปากเซ ประเทศลาว เตรียมตัวพอสมควร เพราะตั้งใจจะเอารถข้ามแดนอยู่แล้ว เรื่องใบขับขี่สากล ไม่ห่วงเพราะทำไว้ตั้งแต่เดินทางไป ปีนัง มาเลเซีย ได้ใช้แล้วเหลือแต่ พาสปอร์ตรถยนต์ ที่จะเอาผ่านแดนไปด้วย ก็ไม่ได้ยากอะไรไปทำที่กองทะเบียนแถวจตุจักร ผมอยู่ในกรุงเทพ ก็เลยสะดวกมั้งไม่รู้ที่อื่นเป็นอย่างไร เตรียมหลักฐานรถไปออกสมุดประจำรถ เพื่อใช้ในต่างแดนจะได้สติ๊กเกอร์ตัว T 2 แผ่นแปะกระจกหน้า และกระจกหลัง ส่วนรายละเอียดคงต้องไปหากันในเว็ปเองนะครับว่าทำอย่างไร
วันที่ 10 เมษายน พวกผมเดินทางไปถึง อุบลราชธานี ตอนเช้าเพราะกะว่าจะข้ามแดนเลย ห่วงเรื่องเที่ยววันหยุด พวกเราไปถึงสายๆ ชายแดนช่องเมก ถ้าคนที่ใช้บัตรประชาชนคนอุบลราชธานี สามารถทำบัตรผ่านแดนได้เลย อยู่ได้ 2 วัน สำหรับคนที่มีพาสปอร์ตไปทำเรื่องผ่านแดนจะอยู่ได้ 1 เดือนหรือ 30 วัน แต่กำหนดการเที่ยวรอบนี้เราอยู่ ปากเซ 3 วัน “จุดนี้เองที่เป็นปัญหาสำหรับคนอุบลฯ ที่ไม่เตรียมตัวและไม่มีพาสปอร์ต เดี๋ยวจะเขียนเรื่องนี้ถึงปัญหา”
พวกเราไปกัน 10 ชีวิตรวมเด็กน้อยด้วย เสียค่าธรรมเนียมฝั่งไทยในการนำรถข้ามแดน 300 บาท ส่วนทางฝั่งลาว ถูกเรียกเก็บ 500 บาท ทั้งๆ ที่ป้ายติดไว้ 50,000 กีบประมาณ 200 บาทกว่า แต่พวกเราทำใจไว้แล้วว่ามีจ่ายเพิ่มแน่ ไม่ว่าค่าอะไร การผ่านแดนเราต้องซื้อ พรบ.ติดรถไว้ด้วย 200 บาท เผื่อเกิดปัญหา เขาบังคับซื้อเพราะเป็นการป้องกันอุบัติเหตุในต่างแดน
หลังจากซื้อเรียบร้อยพวกเราก็ขับรถถึงปากเซ ผมเดาว่าน่าจะเกิน 20 กม. พวกเราไปถึงช่วงบ่าย หิวก็หิวง่วงก็ง่วง เพราะออกจากกรุงเทพ ขับกันทั้งคืน แต่ก็ต้องหาอะไรกินก่อนเข้าโรงแรมที่พัก วนอยู่ซักพักเจอร้านตึกแถว 2 ห้องขายกาแฟ และอาหารตามสั่ง เรื่องรสชาติอาหารทำใจกันอยู่แล้ว รสชาติไม่ถูกลิ้นแน่ๆ แต่ก็ทำใจ พวกเราสั่งข้าวผัด และกระเพราหมูราดข้าว มีอะไรบนโต๊ะบ้างลืม แต่กินพอประทังหิว
หลังจากกินเสร็จก็เข้าโรงแรมพี่พัก กะว่าดึกๆ ค่อยออกไปตะเวณหาตลาดสด พวกเราเตรียมเครื่องครัวเล็กๆ ไปด้วยทำอะไรกินเอง เดี๋ยววันหลังค่อยตะเวณหา
สังเกตุก่อนเข้าโรงแรมถ้าขับเองคงจะหลงทาง เพราะ GPS โทรศัพท์ใช้ไม่ได้พวกเราซื้อซิมลาวมาใส่แล้วนะครับ แต่มันเหมือนไม่ได้เก็บแผนที่ไว้เลย ใน Google Map คิดว่าจะว่าจ้างรถมอเตอร์ไซต์พ่วงท้าย พาตะเวณไปสถานที่ ที่เราไม่รู้จักน่าจะเวิร์คกว่า ช่วงดึกเราออกตามที่นัดแนะไว้ ไปถึงตลาดสด ก็ซื้อของมาทำกินที่โรงแรมเล็กๆ โดยเฉพาะพวกต้มจะทำง่าย พวกคณะเราพกเตาแม่เหล็กไฟฟ้าไปด้วย เสร็จการเดินทางวันแรก เหนื่อยๆ ง่วงๆ
วันที่ 11 เช้ากินอาหารในโรงแรม เป็นแพ็คเก็ตรวมกับค่าห้องพัก 10.00 นัดรถยนต์พาเที่ยว รถยนต์เราที่นำเข้าไปคิดแล้วจอดดีกว่า อย่างแรกไม่มีคนนำทาง สองไม่มั่นใจสภาพถนนอีกทั้งขับขวา สามคิดว่าไปไม่ถูกแน่เป็นการเที่ยวครั้งแรกหาตำแหน่งไม่เจอ
ค่ารถคิด 2000 บาทรวมคนขับ ไม่รวมค่าน้ำมันเป็นรถฮุนได H1 เริ่มต้นของการเดินทางท่องเที่ยว ก็ต้องไปต่อบอเดอร์พาส ของคนอุบลเพิ่มอีก 1 วัน เพราะอยู่ต่อตามกำหนดเที่ยวไม่ได้ โดนปรับคนละ 500 บาท 4 คนจ่ายไป 2,000 บาท ถ้าถือพาสปอร์ตก็ไม่ต้องเสียเงินจำนวนนี้ ระหว่างรอเอกสารพวกเราให้คนขับรถพาไปเที่ยวตลาด ถามอยู่เหมือนกันเจ้าของตลาดเป็นใคร ได้รับคำตอบว่าของ คุณนายดาวเรือง เจ้าของกาแฟดาว ธุรกิจใหญ่ในประเทศลาวคลุมเกือบทั้งหมด “มีภาพบ้านหลังใหญ่เจ้าของกาแฟดาว ตรงข้ามโรงแรมที่พัก”
เวลาเที่ยงคณะพวกผมเดินทางมาถึงเมืองปากซอง เที่ยวน้ำตก ตาดเฮือน ค่าเข้าคนละ 10,000 กีบเด็กๆ ไม่ได้จ่าย จ่ายเฉพาะผู้ใหญ่ 6 คน รวมรถเป็น 70,000 กีบ ผมแลกเงินกีบไปใช้ด้วยเพราะจะถูกกว่าเวลาซื้อของ ร้านค้าเขาไม่เทียบราคาเงินกีบ กับ บาท ตั้งราคาบาทขึ้นเองเลยจะแพงกว่ามาก ตอนเข้าน้ำตกคนขับรถบอกให้จ่ายใต้โต๊ะด้วย 200 บาท ผมก็ไม่รู้ว่าค่าอะไรบอกให้จ่ายก็จ่าย
กิจกรรมหลักเข้าไปเที่ยวก็คือไปนั่งกินอาหารมากกว่า ส่วนน้ำตกไม่สวยครับอาจจะเป็นเพราะช่วงเดือนเมษาน้ำน้อย สำหรับอาหารผมถือว่าใช้ได้สำหรับคนไทย มีอาหารอีสาน ส้มตำปลาร้า แต่การสับมะละกอของคนที่นี่ไม่เหมือนของไทย ที่ผมไปเที่ยว ปากเซ ปากซอง หลวงพระบาง สับมะละกอเหมือนกันของเขาให้ฝานแบนๆ เหมือนเส้นก๊วยเตี๋ยว เวลากินจะเหนียวไม่เหมือนการเฉาะจะได้ความกรอบของมะละกอ
พวกเราปิดทริปสำหรับวันนี้ด้วยการไปเที่ยวน้ำตกอีกที่ ตาดฟาน ผาส้วม ซึ่งแปลว่าห้องหอ บรรยากาศน้ำตกที่นี่สวยกว่าที่แรกเป็นน้ำตกสูงชัน สูงมากๆ น้ำเยอะขนาดไม่ใช่หน้าน้ำ น้ำตกเวลากระแทกกับพื้นจะฟุ้งเต็มไปด้วยละอองน้ำ คนที่มาเที่ยวปากเซควรจัดอยู่ในทริปด้วย สำหรับการท่องเที่ยวธรรมชาติ ค่าผ่านประตูเท่ากัน คนละ 10,000 กีบเด็กๆ ไม่ต้องจ่าย
พวกเราจบที่นี่ก็กลับโรงแรมไปใช้บริการสระว่ายน้ำ ก็กินข้าวฟังเพลงแพริมน้ำ เพลงสากล เพลงไทย เพลงอีสาน ก็ได้บรรยากาศสวยๆ อีกแห่ง สวัสดี
สาม สอเสือ