12 กันยายน 2551

ทุกวันนี้ผมมีกิจกรรมเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง คือไปเรียนพูดภาษาอังกฤษ สมัยก่อนผมพอพูดได้ครับ ผมเรียน AUA คอร์ส 13เหลือ อีก 2 คอร์สจบแต่ก็ไม่ได้เรียนต่อเพราะอะไรจำสาเหตุไม่ได้ แล้วด้วยความที่ไม่ได้ใช้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้ภาษาอังกฤษของผมค่อยลดลง ตรงกันข้ามกับเวลาที่เพิ่มขึ้นจนกระทั่งลืมเกือบทั้งหมด

วันหนึ่งครูจากประเทศอังกฤษ ชื่อ ไมเคิล ตั้งประเด็นถามผมว่า วันนี้รู้สึกอย่างไร ผมก็บอกไปว่า เบื่อโดยเฉพาะประชาธิปไตยในเมืองไทย ผมพูดเป็นภาษาอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่น แต่คุณไมเคิล ก็เข้าใจ ผมพูดว่าเมืองไทยเป็นแบบนี้แทนที่จะช่วยกันกับขัดกันทุกเรื่อง ทำให้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทั้ง ๆ ที่สถานการณ์สำนักงานบัญชีผมดีขึ้นมาก ผมมีลูกค้าเพิ่มเกือบทุกเดือน ๆ ละหลายราย แต่สถานการณ์ทางใจมันเซ็ง ผมบอกออกไปคุณไมเคิล พูดกับผมว่า เขาไม่เข้าใจว่า คนกลุ่มหนึ่งเข้าไปยึดทำเนียบได้อย่างไรเกือบ 2 สัปดาห์ ถ้าหากเป็นประเทศอังกฤษเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นทุกอย่างมีกติกา ผมบอกไปว่าคนไทยหลายคนมอง ประเทศอังกฤษ เป็นต้นแบบประชาธิปไตย อยากจะเป็นบ้างแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นได้หรือไม่

ผมบอกไปว่าเรื่องพวกนี้ทำให้คนไทยเครียดกันหมด แล้วพวกคุณล่ะเคยเครียดบ้างมั้ย ทั้งประเทศอเมริกา และอังกฤษ ที่ชอบไปรุกรานคนอื่นโดยเฉพาะตะวันออกกลาง ไมเคิล บอกผมว่าทุกอย่างเป็นเพราะน้ำมัน ไมเคิล เล่าย้อนไปถึงสงครามโลกครั้งที่สอง ที่ ญี่ปุ่น บุกเพิลฮาเบอร์ ของ อเมริกา ก็เพราะเรื่องน้ำมันเพราะสมัยนั้น ทุกคนจ้องไปที่ฟิลิปปินส์ เพราะมีน้ำมันเรื่องนี้ผมไม่ได้ตาม แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องใหม่เช่นนี้เหมือนกันแต่ก็ไม่มาก

ไมเคิล เล่าถึงเหตุการณ์ 11 กันยายน เมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมาว่าทุกคนตึงเครียดกันหมดจนทุกวันนี้ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ผมก็บอกไปว่ามันไม่แฟร์ ตึก เวิลด์เทรด ถล่มมีคนตาย 4 พันคนแต่พวกคุณไปถล่ม อิรัก มีคนตายเป็แสนคน ไมเคิล บอกว่าเป็นคำพูดที่ดีเพราะความจริงแล้วคนอเมริกา หรือคนอังกฤษ โดยทั่วไปไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะอย่างนั้น แต่เป็นเพราะผู้นำประเทศทำโดยไม่สนคำคัดค้าน เราจบการสนทนาด้วยการพูดกันอีกหลายเรื่อง

เรามองพวกเขา เราก็เหมือนมองโลกของเรา อเมริกา กำลังมีการเลือกตั้ง ญี่ปุ่น ก็กำลังมีการเลือกตั้ง ทุกประเทศกำลังเดินหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

แต่เมื่อไทยกับเดินถอยหลังกันเสียอย่างนั้น เราเคยแข่งขันทางเศรษฐกิจกับ ญี่ปุ่น เข้าแข่งขันกับ เกาหลีใต้ เราแข่งขันกับสิงคโปร์ มาเลเซีย วันนี้เราถอยไปแข่งขันกับ เวียดนาม โดยไม่อายไม่มีศักดิ์ศรี สาเหตุมันมาจากประชาธิปไตยทั้งนั้นถ้าหากเรามองลึกลงไป

ไม่ต้องย้อนไกลถึง ตุลาคม 2516 หรือ ตุลาคม 2519 ว่าเมื่อไทยเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้างถ้าหากใครสนใจตามอ่าน ก็พอจะปะติดปะต่อได้เพราะขณะนั้น ผมพอจะรู้เรื่องแล้ว เหตุการณ์แรกผมเรียน ป 4 พี่ผมไปร่วมกับเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วย ผมย้อนไปแค่ พฤษภาคม 2535 ก็พอก่อนเกิดเหตุผมก็นั่งอยู่แถวนั้นผมนั่งไม่ห่างจาก คุณจำลอง ศรีเมือง ไม่เกิน 50 เมตร แต่วันที่สลายม็อบผมไม่อยู่นั่งเสวนากับพรรคพวก อยู่ที่ร้านคันเคียว แถวดอนเมือง ประวัติศาสตร์ทุกหน้ายังมีชีวิต คนที่ร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์ครั้งนั้นหลายคนยังมีชีวิตอยู่ แต่เราสูญเสียคนบริสุทธิ์ไปเท่าไหร่เพื่อเรียกร้อง เราต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหาร

วันนั้นเราเรียกร้องอะไรเราอยากมีประชาธิปไตยเต็มใบ เราอยากได้นายกรัฐมนตรี จากการเลือกตั้งไม่ใช่มาจากแต่งตั้ง จนกระทั่งมีม็อบสีเขียว สมัย คุณบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ ออกมารณรงค์ให้มีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ เราอยากได้พรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่เหมือนกับ อเมริกา หรือ อังกฤษ ไม่ใช่ 20-30 พรรค เราทำสำเร็จประชาชนชนะเรามีพรรคการเมือง 2 พรรคใหญ่ ทำท่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ หมดวาระ 4 ปีก็เลือกตั้งใหม่ หรือยุบสภาก่อน ก็เลือกตั้งใหม่คือทุกคนหันไปที่กติกา หันไปถามประชาชน

วันนี้เป็นอย่างไรเราเรียกร้อง การเมืองใหม่แต่งตั้ง 70 เลือกตั้ง 30 น่าหัวร่อ นายกฯพระราชทาน การเมืองมันแย่ถึงขนาดที่เราต้องรบกวนพระองค์ท่านแล้วหรือ ทั้ง ๆ ที่สิ่งที่เราเคยเรียกร้อง ผู้บริสุทธิ์ตายไปเท่าไรกว่าจะได้ประชาธิปไตย กว่าจะได้เลือกตั้งเหมือนทั่วโลก

โลกหมุนไปข้างหน้าทุกวัน ประเทศไทย แค่อยู่นิ่งก็แย่อยู่แล้ว นี่เราจะเดินถอยหลังกันอีกครั้งหรือครับ

สาม สอเสือ