ใครเอาเนยแข็งของฉันไป
ใครเอาเนยแข็งของฉันไปเป็นหนังสือเล่มหนึ่งในจำนวนหลายเล่มที่ผมซื้อมาเมื่อหลายปีก่อน หลังจากฟังข่าวเศรษฐกิจมาก ๆ หลายวันก่อนผมตื่นเช้าขึ้นมารีบหาในกองหนังสือเก่า แต่หาเท่าไรก็หาไม่พบ แล้วก็หาต่ออีกหลายวันก็ยังหาไม่เจอ ก็เลยตัดสินใจเขียนเรื่องนี้โดยใช้ความทรงจำ อาจจะคาดเคลื่อนบ้างแต่รายละเอียดผมเชื่อว่าครบ เพราะนี่เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่จุดประกายให้ผมคิดออกไปนอกกรอบ รวมทั้งสำนักงานบัญชีแฟรนไชส์ ที่ใช้เวลาคิดกว่า 3-4 ปี หนังสือเล่มนี้ยังมีคำนิยมของบุคคลที่มีชื่อเสียงอยู่ในประเทศไทยหลายคนใน ช่วงเวลานั้น
เรื่องมีอยู่ว่า มีหนูอยู่หลายตัวอยู่ในเขาวงกต ทุกตัวไม่กล้าเดินออกไปไหนเพราะกลัวจะอดตาย เนื่องจากจุดนั้นพอมีอาหารกินอยู่บ้าง แต่ไม่มากถ้าหากทุกตัวยังคงอยู่ในห้องนี้สักวันก็จะอดตาย เพราะอาหารและน้ำหมด แต่มีหนูอยู่ 3 ตัวเป็นเพื่อนกันผมจำชื่อไม่ได้ว่ามีชื่อว่าอะไรกันบ้างเอาเป็นว่าชื่อ เอ บี ซี ก็แล้วกัน ตัดสินใจเดินทางไปข้างหน้าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาพร้อมรับชะตากรรม ว่าแล้วทั้ง 3 ตัวก็ใส่รองเท้าเพื่อจะเดินไปข้างหน้าในเขาวงกตจะมีห้องอยู่มากมาย ทุกห้องเต็มไปด้วยความว่างเปล่า หนูทั้ง 3 ตัวพยายามเดินหาห้องที่พอจะมี อาหารให้กิน เพราะเดินมานานจนหิวกระหาย มาเจอห้องหนึ่งในนั้นมีเนยแข็งที่เก่า และน้ำ พอกินไปได้หลายวันสำหรับหนู 1 ตัว แต่ถ้าหากหนู 3 ตัวคงกินกันได้ไม่กี่วันอาหารก็จะหมด
เจ้า เอ บี ซี รีบถอดรองเท้ากระโดดลงไปบนเนยแข็ง กินเนยแข็งกับน้ำอย่างหิวกระหาย
เอ บอกกับ บี และซี ว่าเราจะไม่ไปไหนแล้วเพราะทางข้างหน้าไม่มั่นใจว่าจะมีอะไรให้พวกเรากินอีกหรือเปล่า ไว้ให้อาหารหมดก่อนพวกเราค่อยเดินออกหากันใหม่ บี กับ ซี ไม่เห็นด้วยเพราะดูแล้วเนยแข็งที่อยู่ในห้องนี้มีไม่มาก และก่อนที่มันจะหมดมันก็จะเก่าและขึ้นรา
บี และซี บอกว่าเราน่าจะเดินทางต่อไปโดยเอา เนยแข็งกับ น้ำใส่ในกระเป๋าสะพายหลังแล้วเดินออกหาห้องใหม่ เผื่อว่าจะมีอาหารในห้องอื่น หรือมีอาหารมากกว่านี้และใหม่กว่านี้ และมีให้เราเพียงพอ
เอ บอกกับ บี และ ซี ว่า ฉันไม่ไปไหนหรอกฉันจะอยู่ตรงนี้ พวกนายจะไปก็ไปเถอะแต่ก็เตือนนะว่า หนทางข้างหน้ามันอันตราย นายทั้ง 2 ตัวอาจจะไม่มีอะไรกินแล้วก็หิวตาย
บี ได้ฟังในความรู้สึกก็กลัวในหนทางข้างหน้า เพราะถ้าหากไม่มีอะไรกินเราก็คงอดตาย บี บอกกับเพื่อน ๆ ว่าเราน่าจะติดเนยแข็งกับน้ำไปด้วย เดินไปไม่ต้องไกลมากถ้าหากห้องอื่นไม่มีอาหารสำหรับเรา ก็เดินกลับอย่างนี้น่าจะปลอดภัยกว่า
ซี บอกกับเพื่อนว่าเราจะเดินไปข้างหน้าไม่ว่าหนทางจะเป็นอย่างไร เราก็จะไม่เดินกลับมาห้องเดิม เราจะเดินไปข้างหน้าเพื่อหาเนยแข็งและน้ำ ไม่ว่าหนทางจะไกลแค่ไหน หรืออันตรายแค่ไหนเราพร้อมจะเสี่ยง
หลังจากพูดคุยกับเสร็จ ทั้ง บี และ ซี ก็รีบใส่รองเท้า แล้วขอเนยแข็ง และน้ำ ติดกระเป๋าไปแต่ไม่มาก เพราะนั่นเป็นส่วนที่ เอ ควรจะเก็บไว้กิน
ทั้ง บี และ ซี เดินไปข้างหน้าอยู่นานก่อนจะหยุดกินอาหารที่เตรียมมา
บี บอกกับ ซี ว่าเราเดินมาตั้งนานแล้วไม่เห็นห้องไหนจะมีเนยแข็งให้เรากินเลย เรากลับกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยเดินให้ไกลกว่าเดิมแล้วก็เตรียมอาหารมากหน่อย
ซี บอกว่า บี ว่าเราคงไม่กลับไป ให้ บี กลับไปคนเดียวเถอะเพราะเราจะเดินต่อไป ถ้าหากพรุ่งนี้เราเดินอีกครั้ง ก็คงเดินไม่ได้ไกลจากนี้มากนัก เพราะวันนี้เราก็เดินไกลมากอยู่แล้ว ถ้าเรากลับไปพรุ่งนี้ก็คงไม่ได้อะไรเพราะใกล้ ๆ นี้คงไม่มีเนยแข็งให้เรากิน ทั้ง 2 พูดเสร็จก็ร่ำลาขอให้โชคดี
บี เดินกลับมาที่เก่าพบกับ เอ บอกกับ เอ ว่าไม่เจออะไรเลยทางข้างหน้าพรุ่งนี้เราจะตื่นแต่เช้าเพื่อเดินให้ไกลขึ้น
เอ หัวเราะใส่ บี ฉันบอกนายแล้วเหนื่อยเปล่าเราอยู่ตรงนี้ยังมีเนยแข็งกินไม่เห็นต้องเหนื่อย ป่านนี้ ซี คงตายไปแล้วเพราะไม่มีอะไรกิน
รุ่งเช้า บี รีบตื่นแต่เช้ากินอาหาร แล้วก็เอาเนยแข็งใส่กระเป๋า ก่อนจะใส่รองเท้ารีบเดินออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หวังว่าวันนี้จะเดินให้ไกลกว่าเดิม
บี ทำอย่างนี้หลายวันจนเป็นเดือน เนยแข็งก็เริ่มขึ้นรา แล้วก็ใกล้จะหมด ตัวเอง ก็ไม่ค่อยมีแรงเพราะอาหารที่กินเข้าไปไม่พอที่จะทำให้มีกำลังในการเดินไกลกว่าเดิม
คืนนั้น บี นอนคิดถึง เอ และ ซี ทั้งคืนโดยเฉพาะ ซี จะเป็นอย่างไรบ้าง
เช้าวันใหม่ บี ตื่นแต่เช้าเหมือนเดิม หันกลับไปบอก เอ ว่าวันนี้เราจะไม่กลับมาอีกแล้ว เราจะเดินไปข้างหน้าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดีกว่าอยู่ตรงนี้รอความตาย เอ ยังคงหัวเราะนายเดินไปก็เหนื่อยเปล่าอยู่ตรงนี้ยังมีอาหารกินไปอีกหลายวัน ถึงแม้ว่าเนยแข็งจะขึ้นรา เราก็พอจะกินได้
ทั้ง 2 คนร่ำลาขอให้โชคดี บี ตัดสินใจเดินไปข้างหน้า บี เดินไปถึงจุดที่ได้ร่ำลา ซี ได้แต่คิดถึงไม่รู้ว่า ซี เป็นอย่างไรบ้าง บี ยังคงตั้งหน้า ที่จะเดินต่อไปโดยไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร
บี เดินมาไกลมากไกลกว่าทุกครั้ง บี เห็นห้องหนึ่งห้องอยู่ข้างหน้า มีเสียงเพลง และเสียงพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บี วิ่งออกไปด้วยกำลังที่เหลือน้อย บี หยุดยืนหน้าห้องแล้วหันเข้าไปมอง บี เห็นกองเนยแข็งมหึมาทุกอันยังเป็นของสดใหม่ บี เห็นหนูหลายตัวกำลังกิน พร้อมกับร้องเพลงอย่างสนุกสนาน
แล้ว ซี หล่ะ ซี มาถึงที่นี่หรือเปล่าหรือ ซี ตายไปแล้ว บี คิดถึง ซี อีกครั้ง
ทันใดนั้น บี เห็น ซี โผล่หัวออกมาจากเนยแข็งสีทอง ซี ยิ้มให้ บี
เพื่อนเข้ามาเลยมากินเนยแข็งด้วยกันที่นี่ยังมีเนยสีทองอีกเยอะ เป็นเนยแข็งที่อร่อยที่สุดในโลก รับรองว่าคุ้มค่ากับความเหนื่อยยากที่เราเดินมา
แล้ว เอ หล่ะเป็นคำถามสุดท้ายของ ซี ที่ไม่มีคำตอบจาก บี
ในโลกของธุรกิจ และเศรษฐกิจ ที่กำลังตกต่ำขณะนี้เราเลือกจะเป็นตัวอะไร
ระหว่าง เอ บี หรือ ซี เพราะบางทียังมีเนยแข็งรอเราอยู่ แต่ชีวิตก็ต้องการทะลุนอกกรอบ
บันทึกไว้ 20 พฤศจิกายน 2551
สาม สอเสือ