สมองช็อต
จับอาการตัวเองขณะนี้ไม่ค่อยดีนัก จิตใจมันห่อเหี่ยวยังไงบอกไม่ถูก ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ทางการเมืองวุ่น ๆ ขึ้นมา ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมจึงเช็ง ไม่ใช่เซ็งธรรมดาแต่เป็นอาการเช็งมาก ๆ เป็นอย่างนี้มาเกือบ 3 เดือนไม่อยากเขียนหนังสือไม่ได้เปิดเว็บไซต์ ไม่เช็คอีเมล์มันบอกไม่ถูกเซ็งไปหมด ลูกค้าสำนักงานบัญชีหลายบริษัทหยุดลงทุน เพราะงานหดไม่มีเงินเลี้ยงลูกน้อง บางรายเริ่มแนวทางใครทางมัน อนาคตค่อยมาว่ากันใหม่ แวดวงก่อสร้างถ้าหากเป็นบริษัทเล็ก ก็แทบจะปิดตัว
สอบถามวิศวกรโครงการใหญ่ ซึ่งเป็นลูกค้าของบริษัท ซึ่งมีพรรคพวกเปิดบริษัทรับงานออกแบบโครงสร้าง เล่าว่าในวงการก่อสร้างทำท่าว่าจะขึ้นเตาเผากันจริงๆ เพราะตั้งแต่ปี 2549 แทบจะไม่มีงานออกแบบกันเลย เพราะฉะนั้นปี 2550 อย่าหวังว่าจะมีงานก่อสร้างเข้ามาป้อนให้ และปี 2550 ก็ยังไม่มีบริษัทไหนขยับตัวออกแบบ เพราะฉะนั้นปี 2551 ก็คงเป็นอีกปีที่ต้องทนลำบาท ส่วนบริษัทที่รับโครงการใหญ่จากหน่วยราชการ ยังพอมีแต่จะมีซักกี่รายที่มีโอกาสเข้าไปแบ่งชิ้นเค้ก ผมนั่งเขียนเรื่องนี้ผมใช้เวลานานมาก ซึ่งโดยปกติถ้าอารมณ์แจ่มใสผมใช้เวลาไม่เกิน 30 นาทีมากที่สุดไม่เกิน 1 ชั่วโมง ในการเขียนเรื่องต่าง ๆ
วันก่อนเขียนด้วยความไม่เห็นด้วยเรื่องเอามหาวิทยาลัยของรัฐออกนอกระบบไปครั้งหนึ่งแล้ว มาวันนี้เอาอีกแล้วคณะรัฐมนตรีชุดโปรดฟังอีกครั้งหนึ่งมี มติสั่งยุบกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) และสำนักงานกองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ทำให้เด็กที่กำลังเรียนอยู่ไม่มีทุนเรียนต่อต้องหยุดเรียนกลางคัน
มันกำลังเกิดอะไรขึ้นกับสังคมนี้ยุคสังคมอุดมปัญญา ที่พณะหัวเจ้าท่านแต่ละคนจบปริญญากันคนละ 2-3 ใบ แต่กำลังมีความพยายามทำให้เยาวชนของชาติ มีสมองเป็นแค่ก้อนเนื้อที่รอวันเฉา ประเทศรอบข้างพยายามพัฒนาประชาชน คนในประเทศให้เก่ง ให้อ่านหนังสือ ให้เรียนหนังสือ แต่เมืองไทยกำลังทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม กับเยาวชนของตนเอง ผู้บริหารการศึกษาระดับประเทศ กำลังทำให้เยาวชนของไทยมีปัญหาในเรื่องการศึกษาเกือบ 300,000 คน นี่ยังไม่นับรวมเงินจากหวยบนดินกองทุนต่าง ๆ ที่เป็นเงินทุนการศึกษาให้กับเยาวชนของชาติได้มีโอกาสได้เรียนหนังสือ เพื่อเป็นพลเมืองที่มีมันสมองไม่ต้องเป็นภาระให้กับสังคมในอนาคต
จะเอายังไงกันแน่จะถือศีลกันทั้งประเทศเลยมั้ย ลดละเลิกอบายมุขทุกประเภท หรือจะมองโลกแห่งความเป็นจริงว่าสังคมมันมีเหรียญ 2 ด้าน ไม่มีใครได้ทุกอย่าง หรือเสียทุกด้าน ชั่งน้ำหนักกันหน่อยผู้บริโหนประเทศ
ความจริงการเขียนบทความวันนี้ผมลดโทนไปเยอะตลอดเวลากว่า 18 ปีที่อยู่ในวงการน้ำหมึกดุดันกว่านี้เยอะ เดี๋ยวนี้เขียนมากไม่ดีไม่เห็นด้วยกับการทำงานของรัฐบาล และหน่วยงานของราชการมาก จะถูกผลักให้เป็นพวก ทักษิณ ชินวัตร
มีคอลัมนิตส์อยู่คนหนึ่งที่เคยอ่านเจอในไทยรัฐ บอกว่า ไม่ใช่คนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลชุดนี้เป็นพวก ดร.ทักษิณ แต่เป็นคนกลาง ๆ ก็มีโว้ย “คำหลังนี่ใส่เอง”
นี่ขนาดสมองช็อตนะเนี่ยเขียนหนังสือแป๊บเดียว เลือดสูบฉีดอีกแล้วเรา
บันทึกวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2550
สาม สอเสือ