ย้อนหลังภาษีบุคคล
ลูกค้าหลายท่านเข้ามาจดทะเบียนเป็นรูปแบบบริษัท หรือนิติบุคคล ก่อนหน้านี้ รายได้ดี ก็มีการยื่นภาษีที่ดี หลายบริษัทดูมีอนาคตส่วนจะจ่ายภาษีเต็มร้อยเปอร์เซนต์นั่นอีกเรื่องหนึ่ง เข้าใจได้เพราะรูปแบบการค้าบนออนไลน์ มีการแข่งขันราคากันสูง โดยเฉพาะรัฐบาลชุดก่อนปล่อยสินค้าจีนทะลัก แถมมีคลังสินค้าเข้ามาตั้งอยู่ในกรุงเทพ แบบไม่ต้องเสียภาษีอีก การทำการค้าของคนไทยก็กระทบกันหมด
โดยเฉพาะสินค้าราคาไม่เกิน 1,500 บาทไม่ต้องเสียภาษี คงเป็นการทำ FTA ระหว่างไทย-จีน ในตอนนั้น และก็ยังไม่ได้ถูกยกเลิก เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศเข้าใจได้ อะไรมันก็ไม่ง่าย
ช่องโหว่ตรงนั้นคนไทยก็ใช้ ไม่ใช่เฉพาะคนจีน ผู้นำเข้าไทย สินค้าจีน ก็ใช้ช่องโหว่ดังกล่าว ผมเองไม่บอกนะครับโหว่ยังไง ทำยังไงเป็นความลับฟ้า บอกไม่ได้
จากช่องโหว่ดังกล่าวมันย้อนกลับมาทำร้ายผู้ประกอบการไทยกันเอง โดยไม่รู้ตัว มารู้ก็สายเสียแล้วไม่รู้จะแก้ยังไง เพราะเป็นเรื่องระหว่างรัฐต่อรัฐ
ก่อนหน้านี้ซัก 2-3 ปีลูกค้าบางรายเริ่มขายยากขึ้นเพราะต้องแข่งราคา กับสินค้าจีน ต้องเรียกว่าสินค้ามาจากแหล่งเดียวกัน ใครๆ ก็รู้สินค้าที่จำหน่ายในออนไลน์ มาร์เก็ตเพลส โดยส่วนใหญ่ก็เป็นสินค้าจีนมีคุณภาพบ้างไม่มีคุณภาพบ้าง
พอสินค้าผู้ประกอบการไทยซื้อมาจากจีน แล้วผู้ประกอบจีนเข้ามาขายเองอีก คราวนี้ราคาจะแข่งกันได้อย่างไร สินค้าไทย เลยต้องแข่งกันที่เวลาในการนำส่งให้เร็วขึ้น และบางแห่งก็ผลิตเอง สร้างแบรนด์ขึ้นมาเอง
แต่สิ่งที่ผมคาดไว้แล้วต้องเกิดคือ มีผู้ประกอบการบางท่าน พอสู้เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ไหว ก็เลี่ยงไปรับรู้รายได้เป็นบุคคลธรรมดา ผมเองไม่ได้ถามหรอก เพราะแต่ละรายแจ้งว่าขายไม่ดีไม่มียอดขายเลยก็มี เรียกว่ายื่นศูนย์ในนามนิติบุคคล ผมเองคนทำบัญชีมองออกตั้งแต่แรก แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อลูกค้าไม่ยอมรับรู้ยอดขายในนามนิติบุคคล
ผมก็ใช้วิธีหลับตาไม่มอง ไม่เห็น ไม่รู้ แต่ก็เตือนไปหลายรายว่าอันตรายมาก การเอาบัญชีบุคคลธรรมดาไปรับ ผมไม่เรียกบัญชีม้า แต่บางคนก็มีแต่โดยส่วนใหญ่ จะเอาบัญชีบุคคลตัวเอง ญาติ พี่น้อง มารับรายได้จาก มาร์เก็ตเพลส แล้วนึกว่าทำแบบนี้สรรพากรไม่รู้
เคยเตือนไปหลายครั้ง สรรพากรเองเขาก็รู้ยังเคยคุยกันเลยว่า รู้ว่าหลบภาษีกันทั้งนั้นแต่เขาก็ขอผลงานหน่อย เป็นรูปแบบภาษี หลังๆ มาบางคนย่ามใจนึกว่าเจ้าหน้าที่จับทางไม่ได้ เพราะเป็นบุคคลธรรมดา เตือนแล้วเตือนอีก
มาพักหลังๆ ประมาณปี 2566 สรรพากรขอข้อมูล มาร์เก็ตเพลส ซึ่งเป็นผู้ประกอบการในประเทศไทย ให้ส่งข้อมูลที่ได้รับค่าธรรมเนียมการขายแต่ละร้าน ในมาร์เก็ตเพลส ข้อมูลเหล่านี้สรรพากรขอย้อนหลัง 5 ปี เป็นอย่างน้อยเท่านั้นแหล่ะวงแตก เอาสูตรง่ายนะครับถ้าจำไม่ผิด มาร์เก็ตเพลส เก็บค่าธรรมเนียมการขาย 5 เปอร์เซนต์ สมมุติว่าสรรพากรขอดูค่าธรรมเนียมบัญชีนี้ มาร์เก็ตเพลส ได้เท่าไหร่ต่อปี จะคำนวณให้ดู กรณี มาร์เก็ตเพลส ได้รายได้จากคุณปี 2561 2562 2563 2564 2565 เอาแค่ปีเดียวปี 2561 มีรายได้จากบัญชีร้านค้านี้ 150,000 บาท เอา 150,000X100/5 ก็รายรับ 3,000,000 แล้วนี่แค่ปีเดียวนะ ถ้าคำนวณทุกปี จะเท่าไหร่ รายได้ปี 2561 ก็เกิน 1,800,000 บาทต่อปี โดนกฎหมายภาษีบังคับต้องเป็นผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนที่เกิน 1,200,000 บาทต้องคำนวณ ภาษีมูลค่าเพิ่ม คูณ 7 เปอร์เซนต์ ก็โดนภาษีไปอีก 84,000 บาท ค่าปรับอีก 40 เปอร์เซนต์ หรืออีกเท่าหนึ่ง บวกง่าย 1 เท่าก็ 168,000 บาท ยังไม่รวมเงินเพิ่มอีก 1.5 เปอร์เซนต์ต่อเดือนของยอด 84,000 บาท ก็โดนเงินเพิ่มอีก 1,260 บาทต่อเดือน ทั้งปี 2561 คูณ 12 ก็ปาเข้าไป 15,120 บาท แล้วปี 62 63 64 65 ต้องเข้าภาษีมูลค่าเพิ่มทุกยอดการขาย เพราะรายได้เราเกินมาตั้งแต่ปี 2561 คำนวณดูว่าเยอะแค่ไหน
ช่วงหลังทุกคนโทรมาบ่นเจอสรรพากรเรียกภาษีบุคคล ผมเองคงไม่ได้ไปเจรจาให้ เพราะไม่ได้ดูแล และแจ้งไปก่อนหน้านี้แล้วว่าอันตรายมาก โอกาสถูกภาษีย้อนหลังสูง ให้หลีกเลี่ยงซะบางคนก็ไม่เข้าใจหนีหายไปเลยก็มี โทษพวกผมก็มีหาว่าไม่ดูแล ผมเองจะไปว่าอะไรได้ไปก็ไป เพราะเวลามีรายรับรายได้ผมก็ได้แค่ค่าทำบัญชีเท่าเดิมไม่ได้มากกว่าเดิม ไม่ได้รวยเท่าลูกค้า จะให้รับผิดชอบอะไรได้แต่เตือน
ได้แต่แนะถ้าสรรพากรเรียกบุคคลธรรมดา ก็ต้องเข้ามาคุยไปเจรจา ขอลด ขอผ่อน ถ้าจำนวนมันเยอะมากจนไม่มีเงินพอจะชดใช้
หลังๆ คนเตือนก็เหนื่อยบางรายพอโดนภาษีบุคคล มาโทษสำนักงานบัญชี บางครั้งผมเองก็ต้องเตือนความจำกันแรงๆ เหมือนกันว่าผมเตือนไปหมดแล้ว อย่ามาเที่ยวโทษกันมันไม่ดี
ช่วงนี้ภาษีบุคคลจะถูกเล่นงานหนักมาก ผมตั้งประเด็นในใจไว้ ทำไมภาษีบุคคลจึงเป็นตัวหลักที่สรรพากรเรียกเก็บย้อนหลัง เพราะภาษีบุคคลรายได้บุคคล ขายเองยื่นภาษีเองผมว่าเจ้าหน้าที่เขาน่าจะตั้งประเด็นว่าหนีภาษีร้อยเปอร์เซนต์ บางรายก็ไม่เคยยื่นภาษีบุคคลด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่จดบริษัทขึ้นมาแล้ว แต่ไม่รับรายได้ในนามนิติบุคคล
ส่วนบัญชีนิติบุคคลที่เข้าไปรับรายได้ใน มาร์เก็ตเพลส สรรพากรเขาก็คงขอข้อมูลเช่นเดียวกัน แต่ถ้าภาษีรายได้บริษัทดังกล่าวมีการจ่ายภาษีอยู่เป็นปกติ เจ้าหน้าที่เองคงไม่อยากเสียเวลาเรียกสอบ เพราะได้ผลงานไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย อีกอย่างรูปแบบบริษัท จะมี 3 ปาร์ตี้ ผู้ขาย นักบัญชี และผู้สอบบัญชีตรวจสอบงบการเงินประจำปี ไม่ได้ขายเองทำเองยื่นภาษีเอง เหมือนบุคคลธรรมดา
เตือนมาแล้วหลายครั้ง บางรายก็ไม่เชื่อ โดนภาษีย้อนหลังแล้วจะทำกันยังไง โทษกันไม่ดีแน่สำนักงานบัญชี คนทำบัญชี เขาไม่ได้รวยไปด้วย กับยอดขาย สิบล้าน ร้อยล้าน พันล้าน ยังได้แค่ค่าทำบัญชีรายเดือนเท่าเดิม ฝากไว้ให้คิด
บันทึกไว้ 3 เมษายน 2567
สาม สอเสือ