ยังเป็นคน
ข่าวการเสียชีวิต บุ้ง เนติพร เสน่ห์สังคม ทำให้ผมน้ำตาไหล ผมได้ยินข่าวเช้าวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 หัวใจหยุดเต้น ช่วงระหว่างนั้นผมก็ยังทำงานปกติ ในใจยังคิดว่าระบบดูแลของแพทย์ไม่น่าจะมีอะไร ยังไงการอดข้าวน่าจะสามารถฟื้นขึ้นมาได้
จนกระทั่งเย็นวันเดียวกัน มารู้ว่าเด็กสาวชื่อ บุ้ง เนติพร เสียชีวิต ผมน้ำตาไหล บอกตัวเองไม่ถูกเพราะอะไร แต่สิ่งหนึ่งบอกตัวเองได้ว่าสงสารเขาไม่ควรเสียชีวิตด้วยความอยุติธรรมของประเทศนี้
ไม่รู้การเสียชีวิตขอเธอสามารถเขย่าสังคมได้หรือไม่ ฝั่งจารีตคิดอะไรได้บ้างไหม ว่าเด็กสาวคนหนึ่งยอมอดข้าว อดน้ำ จนชีวิตสิ้นสุดลงท่ามกลางข่าวการสูญเสีย
ในออนไลน์ผมได้พบพฤติกรรมของ 2 ประเภทอย่างชัดเจน คนพวกหนึ่งร้องไห้ คนพวกหนึ่งยังคงกระแนะกระแหน เรื่องการเสียชีวิต เสมือนทำลายชีวิตตัวเองเป็นการกระทำที่สมควร บางท่านเป็นเอามากถึงขนาดดูถูกการอดอาหาร อดน้ำ ของพวกเขาเหล่านั้น เป็นเรื่องจริงหรือทำไมยังไม่ตาย มันกระจายไปทั่วโซเชียลตอกย้ำบุคคลเหล่านั้นคิด และการกระทำเป็นเช่นไร
ผมถามเรื่องนี้ในออนไลน์ ว่าคนที่คิดเช่นนั้นเป็นคนๆ หนึ่งหรือเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ถูกเรียกว่า เดรัจฉาน เท่านั้น เพราะดูมันเกินเลยความเป็นคนไปมาก
ผมไม่รู้จักบุ้งเป็นส่วนตัว แต่รู้จากภาพข่าวที่บุ้ง ไปเป็นผู้ปกครองให้ หยก เด็กสาวอายุน้อยที่ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์บางอย่างของทางโรงเรียน ทั้งๆ ที่เด็กคนนั้นเรียนดี แต่โรงเรียนปฎิเสธที่จะให้หยกเข้าเรียน เป็นการต่อสู้กับกฎเกณฑ์ ของทางโรงเรียนที่พวกเขามองว่าเป็นการบังคับ
จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไรบ้าง เครื่องแบบ ทรงผม น่าจะอะไรประมาณนั้น รู้แค่ว่า บุ้ง ไปเป็นผู้ปกครองให้ หยก ต่อสู้กับกฎเกณฑ์ที่ทางโรงเรียนวางไว้แข็งขืน ทั้งๆ ที่มีบางโรงเรียนในประเทศไทย ประกาศผ่อนปรนไปบ้างแล้ว
จนมารู้ว่าเธอยอมอดอาหาร อดน้ำ ในเรือนจำ เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม การประกันตัวไม่ใช่เพื่อตัวเองล้วนๆ แต่เป็นเพื่อ เพื่อนร่วมอุดมการณ์ในความเชื่อ ที่ศาลยังไม่ตัดสินยังไม่ผิด แต่ศาลไม่ให้ประกันตัว หลาย 10 คน ในคดี ม.112 ม.116 ที่เป็นผลพวงจากเผด็จการทหาร
ทุกคนในประเทศนี้โดยเฉพาะผู้มีอำนาจ รู้ว่ามีช้างยืนอยู่กลางห้องตัวใหญ่มากคับห้อง แต่ทุกคนเลือกที่จะทำว่ามองไม่เห็นมัน คือปัญหาของสังคมไทย ความอยุติธรรม ความเหลื่อมล้ำทางกฎหมาย อย่างรุนแรง แต่ไม่ช่วยกันแก้ไข มีคนบอกว่าไม่ต้องถึงกับไล่ช้างออกไปจากห้อง แต่ทำให้ช้างตัวเล็กลง แล้วให้มนุษย์ในห้องมีพื้นที่ในการหายใจมากขึ้น พูดคุยกันได้มากขึ้น
ข่าวการเสียชีวิตของ บุ้ง ผมว่ากลายเป็นข่าวที่สื่อทั่วโลกออกข่าว ฑูตหลายประเทศพากันแถลงการณ์ ความเสียใจในการสูญเสีย เด็กสาวคนหนึ่งที่เห็นต่างทางการเมือง ต้องมาจบชีวิตอย่างน่าเศร้า
ผมตอบตัวเองจากวันที่รู้คืนนั้น บุ้ง ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองอีกแล้ว ไม่ต้องสู้กับความอยุติธรรมอีกแล้ว ไม่ต้องต่อสู้กับความเลวร้ายในระบบสังคมไทยอีกแล้ว หวังว่าเธอจะไปสู่ ภพภูมิ ที่ดี ภพภูมิที่มีแต่ความสว่างไสว และความยุติธรรม ตามที่เธอต้องการ
มองกลับไปที่คนรอบตัว ถ้าเหตุการณ์แบบนี้เจอกับเรา เจอกับคนรอบข้างเรา คนรู้จักเรา คนที่เรารัก คนที่รักเรา เราจะรู้สึกอย่างไร
ผมเป็นคนเล่น ทวิตเตอร์ หรือเปลี่ยนชื่อเป็น X ผมไล่อันฟอลคนไปเยอะ ไม่ว่านักการเมืองในพรรคใหญ่ที่ตามผม และเพื่อนโซเชียลบางท่านที่แปรเปลี่ยน
เขาเล่นกับความรู้สึกถึงการสูญเสีย หนุ่มสาวคนหนึ่ง กับเหตุการณ์บางอย่าง อย่างสนุก ผมอาจจะผิดเองที่ผมรับไม่ได้ใจแข็งไม่พอ
เพราะผมยังเรียกตัวเองว่า คน
บันทึกไว้ 17 พฤษภาคม 2567
สาม สอเสือ