สภาวะความเครียด

หลายเดือนที่ผ่านเครียดมาก เรื่องราวผ่านตาผ่านหู ไม่รู้ว่าเครียดจากเรื่องอะไรบ้าง มันเหมือนของเหลวสะสมในร่างกาย ไม่ใช่ไขมันแต่เป็นความเลวร้ายของสังคม ผ่านหน้ากระดาษ ผ่านหน้าทีวี ออนไลน์ มันผ่านมาเยอะแยะไปหมด แล้วมันก็สะสมแบบไม่รู้ตัว จนพบว่ามีความเครียดสูง ช่วงสะสมมันสนุก ดูตามการเมือง สังคม ตามไปเยอะๆ มันสะสม

ช่วงระหว่างตามเวลาดึกก็ดูฟังผ่านช่องยูทูปต่างๆ ดื่มเบียร์คนเดียวแบบดื่มด่ำ สุดท้ายมาพบว่าตัวเองเครียดฝังลึกมาก ใช้ความเมาในการหลับ มันได้แค่นั้น

หลังจากยังไม่ผ่านช่วงเวลาหนักๆ ตอนนั้นก็ยังคิดไม่ออกว่าต้องทำอย่างไร หันไปดูท่องเที่ยวมากขึ้น ดูการใช้กล้องถ่ายภาพ ดูทำอาหาร ดูพากันกินอาหารอร่อย ฟังเพลง ดูพวก VLOG ตามช่องต่างๆ จนสุดท้ายดูภาพยนต์ผ่านสตรีมมิ่ง ที่ผ่านมาดูไม่รู้เรื่อง จนทำให้สมองผ่อนคลายไปได้บ้าง

เรื่องอะไรที่ทำให้เราเครียด สำหรับท่านอื่นผมไม่รู้ แต่สำหรับผมคือเรื่องการเมือง สังคม เพราะชอบอ่านชอบติดตาม มาตั้งแต่เด็ก อ่านดูการเมือง ดูสภาวะทางสังคม

ผมเองก็ไม่รู้ว่าเริ่มเครียดจากเรื่องอะไรก่อน ไม่อยากค้นหาคำตอบจากคำถามขึ้นต้น ปล่อยๆ มันไป หาเรื่องอื่นทำอาจจะทำให้สมองได้พัก

เล่นกับแมว กอดแมว ให้อาหารแมว ตักอึแมว แต่ก็ได้ไม่เยอะเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำสั้นๆ เป็นงานอดิเรกที่ไม่ใช้เวลา ก็มาจมจ่อกับเรื่องสภาวะแวดล้อมทางสังคมอีก

เที่ยวธรรมชาติยังเบลอ ไม่สนุกไม่ว่าทะเล ไม่ว่าภูเขา ไม่สามารถเข้าไปแทนสภาวะความเครียดได้เลย

รัฐบาลข้ามขั้วก็เรื่องหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องปฐมบทของความเครียด เพราะดูแล้วทางเดินต่อไปน่าจะมีปัญหา แล้วก็มีจริงบริหารงานไม่ได้มันคดเคี้ยวไปหมด

มาตึงเครียดหนัก ก็ตอนยุบพรรคกันง่ายๆ แล้วก็ตัดสิทธิ์กันง่ายๆ ไม่ว่านักการเมือง พรรคการเมืองฝั่งไหน ผมไม่เอาทั้งนั้น มาจากคนไม่กี่คนมาชี้ผิดชี้ถูกคน หรือ พรรคการเมืองที่ประชาชน เลือกมามันง่ายและชุ่ยมากๆ

ยิ่งมาเจอการขัดขวางแก้รัฐธรรมนูญ จาก ส.ว.ที่บรรดาสื่อเขาพากันเรียก ส.ว.สีน้ำเงิน ที่เขาเปรียบเทียบมาจากพรรคภูมิใจไทย อีก ผมนี่เครียดหนักมาก

จนมาพีคสุดภาพข่าวไฟไหม้รถบัสสังเวยชีวิต ครู และเด็กนักเรียนไปอีก 23 ศพ กับระบบความห่วยของไทย ต้องเรียกว่าเป็นเรื่องสุดท้ายที่รับไม่ไหว

สมองผมตัดออกทันที

วันนี้ผมดีขึ้นแล้วเมื่อคืนนั่งดูภาพยนต์ผ่าน HBO เป็นหนังต่อสู้ดุเดือดถ้าจำชื่อเรื่องไม่ผิด civil war หลังจากดูจบก็ฟังเพลงแล้วนอน ตื่นมาค่อยสดใสหน่อย

คงไม่กลับมาเครียดเหมือนเดิม

บันทึกไว้ 4 ตุลาคม 2567

สาม สอเสือ