โอกาสแห่งชีวิต
ที่จะเขียนเรื่องนี้ ไม่ได้เพียงบอกเล่าความเป็นไปในชีวิตซึ่งเป็นเรื่องแต่ละปัจเจก แต่ต้องการจะถ่ายทอดการเรียนรู้ประสบการณ์และคนทั่วไปสามารถปรับใช้ในชีวิตได้ ถ้าคิดว่าถูกจริตก็นำไปใช้ ถ้าคิดว่าไม่ใช่ก็เพียงอ่านผ่าน ในสิ่งที่เราไม่รู้ไม่เคยเรียน และโอกาสที่พัดผ่าน หรือหยิบฉวยเอาไว้ เหมือนสายลมพริ้วไหว ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หรือจะเลือกเก็บสายลมแห่งโอกาสนั้นไว้ คำที่บอก โอกาสมีเสมอ ผ่านไปเดี๋ยวก็ผ่านมาใหม่ โอกาสของมนุษย์ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป รวมทั้งเลือกจะเรียนรู้สิ่งใหม่ตลอดชีวิต ก็จะเป็นการเพิ่มพูนความรู้ใช้ในโอกาสต่อไป
หลายปีที่ผ่านมามีงานรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่ หลายครั้งๆ เริ่มต้นเกิดจากการซื้อบ้านเก่าเพื่อไว้พักอาศัย ทำเลใกล้ออฟฟิศอย่างมากใช้การเดินทางด้วยเท้าไม่เกิน 100 เมตร สิ่งแรกที่พิจารณาได้คือประหยัดค่าเดินทางแน่นอน อีกสิ่งก็คือปัญหาที่จอดรถสำนักงานตึกแถว หรืออาคารพาณิชย์ เรียกว่ามีปัญหาเกือบทุกที่ ปัญหานี้จบลงโดยทันที การรื้อครั้งใหญ่เพราะความทรุดโทรมของตึก ผนัง พื้น ระบบไฟฟ้า ประปา ท่อน้ำทิ้ง เรียกว่าเกือบทั้งหมดคือต้องการเปลี่ยนระบบตามที่เราต้องการ แต่ก็ต้องแลกด้วยเงินเก็บพอสมควร แต่ตัดสินใจถ้าทำต้องทำให้สุดตามที่คนในครอบครัวต้องการไม่ควรตัดสินใจคนเดียว อยู่แล้วแก้ไขยากเพราะข้าวของจะเริ่มขยับยาก ผมเองไม่ได้จบทางด้านช่างอะไรทั้งสิ้น ช่างเถอะก็ไม่เอา อาศัยครูพักลักจำมาทั้งชีวิต และเชื่อการวางแผนในกระดาษก่อนลงมือทำ จะทำให้งานเป็นไปตามแผนช่างก็ทำงานง่ายตามแผน ถ้าต้องปรับแต่งก็ไม่เกิน 1 ถึง 5 เปอร์เซนต์ของเนื้องานทั้งหมด ไม่เสียเวลาและไม่เสียเงินในการรื้อถอนเมื่อสร้างเสร็จบางจุด แล้วไม่ถูกใจคลุมงบประมาณตามที่วางไว้ ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนทำธุรกิจหรือใช้ชีวิตประจำวันปุถุชน และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ก่อสร้าง ไม่ว่าสุขภัณฑ์ ระบบไฟ สายไฟ ตู้เมนไฟ กระเบื้องปูพื้น และลายกระเบื้องแต่ละจุด ต้องคิดให้เสร็จก่อนลงมือ เพื่อให้พอดีกับงาน ไม่ซื้อเกินสิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะหลังจากสร้างเสร็จอุปกรณ์เหลือเก็บไว้ก็คือขยะ ที่ไม่ได้ใช้ ยิ่งต้องเก็บรักษายิ่งมองยิ่งเจ็บปวด เพราะไม่รู้ว่าจะได้ใช้เมื่อไหร่ เก็บไว้ก็เป็นภาระลุงลังกับเนื้อที่ ทางบัญชีการเก็บไว้โดยไม่ใช้งานคือ ค่าใช้จ่ายแฝง โดยที่ทุกคนไม่เคยคิดเรื่องนี้
ผมออกแบบด้วยโปรแกรม illustrator จำมาสมัยเป็นนักข่าวชอบนั่งเล่นกับแผนกอาร์ตออกแบบรูปเล่ม โปรแกรมก็ต้องฝึกใช้เพื่อให้จดจำคำสั่งต่างๆ วิธีก็วาดใส่กระดาษก่อนแต่ละชั้นตึก แต่ละมุมห้อง และระบบไฟฟ้า ประปา สายแรน เครื่องปรับอากาศ ไม่เหมือนพวกอาร์ตเขาชำนาญงานเขาอยู่ในหัวอยู่แล้ว ส่วนผมถ่ายทอดจากกระดาษวาดดินสอ สู่คอมพิวเตอร์ ผ่านโปรแกรม จะได้ดูสวยงามปรับแต่งง่ายเข้าใจง่ายทั้งผม ครอบครัว และช่างทำงาน รวมทั้งพิมพ์รายละเอียด วัสดุ พื้นที่ไฟฟ้า ฯลฯ ออกแบบแต่ละชั้น ทำให้ช่างทำงานรวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องถาม โดยเฉพาะเรื่องไฟฟ้า ไฟส่องสว่าง ผมเรียนรู้จากพี่ชายผม เพราะเขาจบมาเฉพาะทางไฟฟ้า สวิตช์ไฟเพื่อเปิดไฟ หลอดนั้นควรอยู่ตรงไหน และสว่างครอบคลุมพื้นที่แค่ไหน และต้องมีสวิตช์เพิ่มอีกตรงไหน รวมถึงปลั๊กไฟ ควรจะอยู่จุดไหนทำหน้าที่อะไร ในชีวิตประจำวัน
วางแผนเพิ่มเติมถึงขนาดกลุ่มปลั๊กไฟ ที่เราต้องเปิดใช้ในชีวิตประจำวัน และแทบจะเปิดทุกวัน ต้องมีเบรกเกอร์คลุมปลั๊กไฟชุดนั้นที่จุด กลุ่มปลั๊กไฟจะเสียบอะไรบ้างเช่น โทรทัศน์ เครื่องเสียง เครื่องขยายเสียง และอื่นๆ เวลาเปิดใช้ต้องเปิดพร้อมกัน และเวลาปิดก็ควรปิดพร้อมกัน สาเหตุเพราะขี้เกียจผมเป็นคนไม่ชอบดึงปลั๊ก เสียบปลั๊กไฟบ่อยมันอันตราย กลัวพลาดจะใช้เบรกเกอร์คุม เวลาปิดใช้ สับเบรกเกอร์ ยิ่งเวลาออกจากบ้านหลายวันจะง่ายและปลอดภัยกว่าการดึงปลั๊คไฟทุกอุปกรณ์ทุกครั้ง ช่างไฟฟ้า ยังบอกไม่เคยเจอบ้านไหนเขาทำ ฮาๆๆ ผมคิดมาก ทุกอย่างต้องวางแผนอย่างละเอียดเพราะสายไฟทุกเส้นอยู่ใต้ฝ้า ใต้ผนังทั้งหมดต้องวางแผนให้จบ ถ้าไม่จบต้องมาเดินสายลอย จะผิดความตั้งใจ
รวมทั้งวางระบบประปา เพราะทุกอย่างอยู่ใต้ดิน เข้าผนัง ตำแหน่งก๊อกน้ำ ท่อน้ำดี ท่อน้ำทิ้ง จุดซ่อมบำรุงในอนาคต หรือเรียกช่อง เซอร์วิส ควรอยู่ตรงไหนใช้อะไร ท่อน้ำ สายไฟ เดินผ่านจุดไหน ต้องรู้ดูออกต้องไม่เกิดอุบัติเหตุในอนาคตเจาะโดนสายไฟ ท่อน้ำ เพราะทุกอย่างจะถูกเทปูนทับแก้ไขยากถ้าวางแผนผิดพลาด ทำจนเสร็จเรียบร้อย
แล้วมาวันหนึ่งบ้านติดสำนักงาน มาบอกขายให้ผม เป็นตึกแถวติดกันโทรมมาก เขาบอกว่าผมควรซื้อเพราะได้ประโยชน์เชื่อมตึกแถว 2 ห้องทำให้กว้างขึ้นออฟฟิศใหญ่ขึ้น แต่ผมมองว่าสำนักงานที่ทำอยู่ ด้วยระบบงานที่วางไว้ลูกค้ามากมาย ผมยังใช้เนื้อที่ไม่หมดเลยไม่รู้จะซื้อไปทำไม ผมบอกเจ้าของบ้านที่ขายซึ่งรู้จักกันแต่เขาย้ายไปอยู่ที่อื่นนานแล้ว ว่าไม่รู้ว่าจะซื้อทำไมบ้านผมก็เพิ่งซื้อ แต่ก็ลองถามราคาเสร็จสรรพเผื่อไว้ แล้วก็มาจุดหนึ่งผมบอกพรรคพวก ซึ่งเป็นครอบครัวกับพนักงานคนโต เพราะดูแล้วราคาบ้านต่ำกว่าราคาตลาดเยอะมาก บ้านน่าจะ 4.5 ล้านเขาขาย 3.5 ล้าน ผมพูดคำหนึ่งกับพรรคพวกชื่อ โก้ ชีวิตคนเราบางครั้งโอกาสไม่ได้มาบ่อย บางทีมาแล้วก็ไปเลยไม่กลับมาอีกเลย ถ้าไม่คว้าเอาไว้เพราะ โก้ และครอบครัว ไม่ได้มีบ้านอยู่ในกรุงเทพ แต่ใช้ชีวิตที่นี่มีรายได้ที่นี่ และผมดูรายได้เขาแล้ว รวมทั้งสเตรทเม้นท์ พอจะกู้ได้แน่ และผ่อนได้ไม่ลำบากมากนัก อีกทั้งทำเลแบบนี้ ตึกแถวกลางเมืองเดินทางสะดวก ไม่เปลี่ยวสำหรับบุตรหลานในยามค่ำคืน ผมมารู้ว่าเขาจำคำที่ผมพูด แล้ววันหนึ่งเราดื่มเบียร์ด้วยกันในบ้านหลังใหม่ เขาบอกเขาจำคำที่ผมพูดไว้ และก็เป็นจริงตามนั้น
บ้านเขากู้ได้จริงๆ 4.5 ล้าน ยังเหลือ 1 ล้านบาทรีโนเวทครั้งใหญ่เช่นเดียวกัน ผมก็วางแผนทุกชั้นด้วย illustrator เหมือนเช่นเดิม บ้านตึกแถว 3 ชั้นมีชั้นลอย ถ้ารวมด้วยก็คือ 4 ชั้นวางแผนด้วย illustrator ทุกชั้นแจกให้ช่างไฟ ช่างปูน ช่างประปา ช่างกระเบื้องไว้ดู งานก็เลยเสร็จเร็วขึ้นเพราะทุกอย่างผ่านการวางแผนไว้หมดแล้ว ส่วนการเลือกกระเบื้อง สุขภัณฑ์ อันนั้นเขาต้องวางแผนเองเพราะต่างคนต่างความชอบ แบบและลายกระเบื้อง
ผมมานึกย้อนตอนนั้นในออฟฟิศ ผมมีอินเตอร์เน็ตอยู่แล้วเดินสายแลน cat6 ไว้ทุกชั้น ใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบบความเร็วสูงสุดเท่าที่มีในตลาด เพราะต้องใช้กับระบบงานบัญชี ต้องเสถียร ผมบอกโก้ ลากสายเน็ตเจาะทะลุออฟฟิศเข้าบ้านไปเลยชั้น 3 แล้วให้เดินสายแรนไปตามจุดที่เราวางไว้ จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าอินเตอร์เน็ตรายเดือน โก้ ก็ซื้อเราท์เตอร์ตามสเปค วางตามจุดของตัวเองที่คิดว่าต้องใช้ และก็ตั้งชื่อเป็นของตัวเอง ประหยัดเงินด้วย ได้ความไวของเน็ต เพราะการใช้ชีวิตจะคนละแบบบ้านโก้ จะอยู่กลางคืนเพราะทำงานนอกบ้าน ออฟฟิศผมทำงานกลางวัน ความเร็วเน็ตจึงแทบไม่รบกวนกัน
ออฟฟิศผมก็เคยเกิดปัญหาจากความทรุดโทรมของกาลเวลา ของอาคาร และอุปกรณ์ตกแต่งอาคารยุคนั้นใช้ไม้เป็นหลัก ฝ้า เพดาน โครงฝ้า ซึ่งเคยรีโนเวทมาครั้งหนึ่งชั้นลอย เพราะเป็นการทำเต็มชั้นต่อชั้นเพิ่มเต็ม 1 ชั้น ทุกส่วนทำด้วยไม้ยกเว้นเสาค้ำจะเป็นเหล็กกล่องใหญ่ ฝังข้างเสาเพื่อค้ำพื้นไม้ ที่ต้องเพิ่มชั้นลอย วันหนึ่งปัญหาปลวกกินเพดานเกิดถล่มลงมา ดีที่ไม่ทับคนทำงาน เพราะมีเสียงแปลกๆ ทุกคนวิ่งทันหมดผมทำการซ่อมไปก่อนในครั้งนั้นให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เพราะต้องทำงานในฐานะสำนักงาน อีกทั้งปลวกก็อาละวาดหนัก กินฝ้าหลายห้อง ในอดีตก็ทำเหมือนปะผุ เพราะไม่สามารถทำทั้งหมดพร้อมกันได้ ไม่รู้จะไปนั่งทำงานที่ไหน ซึ่งเป็นหน้าที่ประจำ ซึ่งการย้ายไปทำงานที่อื่น หรือไปเช่าสำนักงานทำงานชั่วคราว ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก ด้วยระบบงานที่วางไว้ หลังจากบ้านโก้ เสร็จถึงเวลาต้องรีโนเวทเช่นเดียวกันเอาไม้ออกให้หมดทุกชั้นเพื่อไม่ให้ปลวกมีอาหารกินอีก และไม่เข้ามารบกวน
การวางแผนครั้งนี้จึงสำคัญมาก การใช้ illustrator เรื่องปกติเพราะวางแผนมาหลายรอบ แต่ที่สำคัญ ต้องมีสถานที่ทำงานต่อเนื่อง เพราะงานสำนักงานบัญชีเป็นการทำงานประจำเดือน ขาดไม่ได้ต้องส่งภาษีทุกเดือนให้ลูกค้า แล้วจะทำยังไงเพราะต้องรีโนเวททุกชั้นทำให้จบทำให้เสร็จเอาไม้ออกให้หมด แม้แต่ฝ้าเป็นแผ่นยิปซั่มในอดีตจะบุกระดาษเหยื่อปลวกเช่นเดียวกัน เปลี่ยนเป็นยิปซั่มบุฟรอยด้านหลัง เอากระดาษออกทั้งหมด ส่วนไม้ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นเหล็ก เป็นอลูมิเนียมช่องหน้าต่าง ประตูไม้เทียม upvc ทุกห้องทุกชั้น ช่วยกันวางแผนทุกคนในสำนักงาน ให้ช่างรื้อทำจากชั้นบนสุดจดเสร็จ แล้วค่อยย้ายไปทำงานชั้นบน ชั้นล่างค่อยให้ช่างทำต่อเปลี่ยนทำเลห้องน้ำย้ายไปท้ายสุดของห้อง สำนักงานได้พื้นที่เพิ่ม อย่างที่บอกที่สำนักงานผมให้เดินสายไปแรนไปทุกชั้น งานเริ่มเดิน จน 2 ชั้นบนสุดเป็นห้องทำงานได้แล้วแต่ปัญหาคือ ไม่พอนั่งทำงาน พนักงานบางส่วนเอาคอมฯ ไปตั้งบ้านโก้หลายชุด เพื่อทำงานด้วยระบบแรน เครื่องเซิร์ฟเวอร์ ตั้งในสำนักงาน สายแรนที่ผมให้โก้ไปใช้งานอินเตอร์เน็ตใช้ได้เลยในเวลานี้ ทุกอย่างมันช่วยให้สำนักงานผมทำงานได้ต่อ ถึงแม้จะมีการรื้อทีละชั้น โดยกำหนดตามที่ช่างบอก 1 เดือนตรงเวลาเป๊ะตามนั้น
สิ่งที่เขียนมาตรงนี้ไม่ใช่เรื่องวางแผน แต่เป็นเรื่องการให้โดยที่ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แต่ผมกลับได้รับ โดยไม่ต้องรอชาติหน้า ชีวิตไม่มีชนะ ไม่มีแพ้ เพราะชีวิตไม่ได้มีเส้นชัย อย่าเห็นแก่ตัวกันมากกับการให้ การใช้ชีวิต ชีวิตมันสวยงามได้เสมอ
บันทึกไว้ 19 ธันวาคม 2567
สามสอเสือ