Bookkeeping Hot Request part III

21.ผู้ทำบัญชีจะต้องเป็นพนักงานที่สังกัดอยู่ในบริษัทผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีด้วยหรือไม่

ไม่จำเป็น จะเป็นพนักงานประจำหรือไม่ก็ได้ หากมีความรับผิดชอบในการทำบัญชีตามกฎหมายก็จะต้องยื่นแบบ ส.บช.5
—————————–

22.สงสัยว่าต้องไปขึ้นทะเบียนเป็นนักบัญชีเฉพาะผู้จัดการด้านบัญชี หรือพนักงานบัญชีทุกคนที่มีคุณสมบัติครบตาม พ.ร.บ. หรือขึ้นทะเบียนไว้ก่อน

ขึ้นทะเบียนเฉพาะผู้จัดการด้านบัญชี พนักงานอื่นที่มีคุณสมบัติยังไม่ต้องไปขึ้นทะเบียน
* จนกว่าจะได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ทำบัญชีหรือ
* ไปรับทำบัณชีให้ธุรกิจอื่น
—————————–

23.ถ้าเราเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชี เราเป็นคนตรวจสอบใบสำคัญ โดยมีหัวหน้า 2 คน เป็นคนอนุมัติ ทั้งสองคนไม่ได้จบบัญชี คนที่อนุมัติเป็นคนสุดท้ายเป็นประธานซึ่งเป็นชาวต่างชาติ รายงานทุกอย่าง ก็ต้องเสนอประธานคนสุดท้าย
1.กรณีนี้จะเรียกว่าเราเป็นผู้ทำบัญชีรับผิดชอบตามกฎหมายหรือไม่
2.แล้วการที่ผู้ลงลายมือชื่ออนุมัติใบสำคัญไม่ได้จบบัญชีจะผิด พ.ร.บ.หรือไม่

1.ผู้จัดการฝ่ายบัญชี หมายถึง ผู้จัดการฝ่ายบัญชีซึ่งถ้าผู้มีหน้าที่จัดบัญชีมอบหมายให้เป็นผู้ทำบัญชีของกิจการและมีคุณสมบัติและเงื่อนไขการเป็นผู้ทำบัญชีตาม พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 และได้แจ้งการเป็นผู้ทำบัญชีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก็จะถือเป็นผู้ทำบัญชีตามกฎหมาย
2.การที่มีอนุมัติรายการโดยผู้อนุมัติรายการคนใดก็ตามไม่จำเป็นต้องจบบัญชีเพราะไม่ใช่ผุ้ทำบัญชีของกิจการ
—————————-

24.กรณีที่ผู้ทำบัญชีเป็นผู้รับผิดชอบเป็นกลุ่มบริษัทโดยที่ไม่ได้สังกัดในบริษัทผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีจะต้องยื่นแบบ ส.บช.5 อย่างไร

ผู้ทำบัญชีจะต้องยื่น ส.บช. 5 โดยแจ้งรายละเอียดชื่อธุรกิจทั้งหมดที่ตนเป็นผู้ทำบัญชี ทั้งนี้ผู้ทำบัญชี 1 คนจะรับทำบัญชีได้ไม่เกิน 100 รายต่อ/ปี
—————————-

25.กรณีเจ้าของกิจการ ซึ่งจบปริญญาตรีทางการบัญชี จะเป็นผู้ทำบัญชีของกิจการของตัวเองได้หรือไม่

เป็นได้ เท่ากับเป็นทั้งผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีและผู้ทำบัญชี
—————————

26.ผู้จบปริญญาตรีทางการบัญชี ร่วมกับผู้ทำบัญชีที่สอบผ่านการอบรบได้สิทธิทำบัญชี 8 ปี เข้าหุ้นกันตั้งสำนักงานบริการรับทำบัญชี เป็นคณะบุคคลขึ้นมาใหม่ โดยจะแจ้งตามแบบ ส.บช. 3 เป็นผู้ทำบัญชีจะให้ผู้ผ่านการอบรมได้สิทธิ 8 ปี เป็นผู้รับรองจะได้หรือไม่

จะยื่น ส.บช. 5 ใหม่ โดยผู้เป็นหุ้นส่วนของคณะบุคคลที่รับผิดชอบในการทำบัญชีให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งผู้อบรมผ่าน 60 ชั่วโมงมีคุณสมบัติเป็นผู้ทำบัญชีได้และ จะต้องยื่น ส.บช.5 แจ้งรายชื่อกิจการที่ตนเป็นผู้ทำบัญชีด้วยเช่นเดียวกัน
1.ส.บช.5 จะต้องแสดงชื่อธุรกิจที่ผู้ทำบัญชีได้ทำบัญชีให้จริง ทั้งนี้จะต้องมีจำนวนเท่าที่กฎหมายกำหนดให้ คือ
– กรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วนที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบในการให้บริการรับทำบัญชีไม่เกิน 150 ราย
– ผู้ช่วยผู้ทำบัญชีไม่เกิน 100 ราย
2.ในกรณีนี้สำนักงานบริการรับทำบัญชีจะมอบหมายให้ผู้ใดรับผิดชอบในการให้บริการรับทำบัญชีของสำนักงานบัญชีก็ได้เพราะผู้ทำบัญชีที่สอบผ่านการอบรมตามมาตรา 42 วรรค 2 ขณะนี้มีคุณสมบัติครบถ้วนแต่ถ้าครบ 8 ปีแล้วยังไม่สำเร็จปริญญาตรีทางการบัญชี ก็จะขาดคุณสมบัติ ทั้งนี้หากจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงทางการบัญชี (สวส.) สามารถเป็นผู้ทำบัญชีของห้างหุ้นส่วนส่วนจดทะเบียนที่มีทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท สินทรัพย์รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท และรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาทได้
————————–

27.บริษัท ก มีบริษัทในเครือ 6 บริษัท บริษัท ก จะเป็นผู้รับผิดชอบทำบัญชีให้บริษัทในเครือทั้งหมด โดยได้รับค่าตอบแทน อยากทราบว่าผู้ที่จะต้องลงนามเป็นผู้ทำบัญชีของบริษัทในเครือ คือใคร(สมุห์บัญชี บริษัท ก และผู้ทำบัญชีให้บริษัทในเครือจบปริญญาตรีสาขาบัญชี กรรมการบริษัท ก ไม่จบบัญชี)

1. ผู้ลงนามเป็นผู้ทำบัญชีของบริษัทในเครือ จะเป็นผู้ทำบัญชีคนเดียวกับผู้ทำบัญชีของบริษัท ก หรือต่างบุคคลกันก็ได้ ทั้งนี้ ผู้ทำบัญชีนั้นต้องมีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
2.กรรมการบริษัท ก ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ทำบัญชี ดังนั้น จึงลงนามเป็นผู้ทำบัญชีของบริษัทใดๆไม่ได้ทั้งสูิ้น
————————–

28.ธุรกิจมีบริษัทในเครือ 10 บริษัท จะต้องมีผู้ทำบัญชีทั้ง 10 บริษัทหรือไม่ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีจะกำหนดให้ผู้ทำบัญชี 1 คน ทำบัญชีในเครือทั้งหมดจะได้หรือไม่

จะต้องมีผู้ทำบัญชีให้กับบริษัท จะใช้ผู้ทำบัญชีคนเดียวกันได้ถ้าผู้ทำบัญชีคนนั้นจะรับทำบัญชีได้ไม่เกิน 100 ราย/ปี
—————————

29.อยากทราบว่าการขึ้นทะเบียนนักบัญชี เฉพาะผู้ที่เป็นคนลงลายมือชื่อใน ส.บช. 3 เท่านั้น หรือไม่ หากใช่ นักบัญชีที่มิได้ลงลายมือชื่อใน ส.บช. 3 ต้องยื่นด้วยหรือไม่ อย่างไรถ้ามิได้ยื่นภายหลังจะเสียสิทธิ์การเป็นนักบัญชีหรือไม่

ผู้ที่ไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชี คือ

– ผู้ที่กำลังทำบัญชีให้ธุรกิจต่างๆ อยู่ในขณะนี้และธุรกิจมอบหมายให้ผู้นั้นเป็นผู้ทำบัญชีของกิจการ
– ถ้าธุรกิจมีนักบัญชีหลายคนอยู่ในแผนกบัญชีคนที่ต้องลงทะเบียนก็คือหัวหน้าแผนกบัญชี ดังนั้น นักบัญชีที่ยังไม่ได้ทำหน้าที่ผู้ทำบัญชีไม่ได้เสียสิทธิในการเป็นผู้ทำบัญชีหากได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ทำบัญชีเมื่อใดก็ให้แจ้งการเป็นผู้ทำบัญชี หากได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ทำบัญชีเมื่อใดก็ให้แจ้งการเป็นผู้ทำบัญชีภายใน 60 วัน นับแต่วันที่เป็นผู้ทำบัญชี
—————————

30.กิจการมีหลายโรงงานแต่มีผู้จัดการบัญชีคนเดียว นั่งที่เดียว ใครคือผู้ทำบัญชีแต่ละแห่ง

ขึ้นอยู่กับกิจการว่า จะมอบหมายให้ใครเป็นผู้ทำบัญชี ถ้าหากกิจการจะมอบหมายให้ผู้จัดการบัญชี เพียงคนเดียวรับผิดชอบในการทำบัญชีของหลายโรงงานก็ได้ แต่ผู้จัดการบัญชี ต้องมีคุณสมบัติและเงื่อนไขเป็นผู้ทำบัญชีตามประกาศกรมฯ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี
—————————