Bookkeeping Hot Request part V
41.ในบริษัทหนึ่งๆ มีพนักงานไปขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีมากกว่า 1 คน ได้หรือไม่
ได้ในกรณีที่กิจการมอบหมายให้มีผู้ทำบัญชีมากกว่า 1 คน เช่นในกรณีที่กิจการมีสำนักงานใหญ่สถานประกอบ
ธุรกิจเป็นจำนวนหรือสาขาหรือ มีโรงงานหลายแห่ง และกิจการมอบหมายให้มีผู้ทำบัญชีของสาขาหรือ โรงงานแต่ละแห่งแยกจากกัน
—————————
42.ในการกรอกแบบ ส.บช. 5 ต้องระบุว่าเป็นพนักงานของบริษัทใด ดังนั้นเมื่อพนักงานคนนี้ลาออกจากบริษัทนี้แล้ว ไปเป็นผู้ทำบัญชีอีกบริษัทหนึ่งต้องแจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าด้วยใช่หรือไม่
จะต้องยื่นแบบ ส.บช. 6 ภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2547 สามารถแจ้งการเปลี่ยนแปลงได้ทาง Internet
—————————
43.ตอนอบรม 60 ชั่วโมง เป็นผู้ทำบัญชีใช้วุฒิ ปวส.ได้วุฒิบัตรซึ่งมีรหัสเลขที่ผู้ทำบัญชีแล้ว เมื่อเรียนเพิ่มได้วุฒิปริญญาตรีทางบัญชี ต้องแจ้งกับกระทรวงพาณิชย์และต้องเปลี่ยนแปลงเลขวุฒิบัตร หรือไม่
ต้องแจ้งขึ้นทะบียนเป็นผู้ทำบัญชีใหม่ โดยใช้แนว ส.บช. 5 จำนวน 2 ชุด(ต่างจังหวัดได้ 3 ชุด) พร้อมทั้งแนบหลักฐานประกอบ ดังนี้
1.สำเนาทะเบียนบ้าน
2.สำเนาบัตรประชาชน
3.สำเนาปริญญาบัตร หรือสำเนาใบรับรองผลการศึกษาตลอดหลักสูตร(Transcript)
4.รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน จำนวน 2 รูป (ต่างจังหวัดใช้ 3 รูป)
5.สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล (ถ้ามี) ทั้งนี้ จะต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วยว่า เคยผ่านการอบรมแล้ว และเจ้าหน้าที่จะออกรหัสเก่าเป็นอันยกเลิก
————————–
44.ต้องการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีต้องทำอย่างไรบ้างแล้วต้องไปติดต่อที่ไหนใช้เอกสารอะไรบ้าง
การแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีจะต้องแจ้งภายใน 60 วัน นับแต่วันที่รับทำบัญชี โดยใช้แบบ ส.บช. 5 จำนวน 2 ชุด ( ต่างจังหวัดใช้ 3 ชุด ) พร้อมทั้งแนบหลักฐานประกอบ ดังนี้
1. สำเนาทะเบียนบ้าน
2. สำเนาบัตรประชาชน
3. สำเนาปริญญาบัตรหรือสำเนาใบรับรองผลการศึกษาตลอดหลักสูตร ( Transcript )
4. รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือนจำนวน 2 รูป ( ต่างจังหวัดใช้ 3 รูป )
5. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล ( ถ้ามี ) โดยแจ้งที่สำนักกำกับดูแลธุรกิจกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จังหวัดนนทบุรี 11000 สำหรับต่างจังหวัดสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด นั้น ๆ
—————————
45.พนักงานบัญชีบริษัทแห่งหนึ่ง ทำงานเกี่ยวกับการ ซื้อมาขายไปเป็นเวลา 4 ปีและจบปริญญา ทางการบัญชี อยากทราบว่าต้องไปขึ้นทะเบียนหรือไม่ และถ้าไม่ต้องเผื่ออนาคตย้ายที่ทำงาน ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายบัญชี ถึงต้องไปขึ้น ทะเบียนใช่หรือไม่
ขณะนี้ไม่ต้องยื่น เนื่องจากในปัจจุบันไม่ได้รับการมอบหมายให้เป็นผู้ทำบัญชี ถ้าให้ในอนาคตได้รับการมอบหมายให้เป็นผู้ทำบัญชี จึงค่อยแจ้ง
—————————
46.การรับแจ้งเป็นผู้ช่วยผู้ทำบัญชีจะให้เจ้าของสำนักงานแจ้ง หรือผู้ช่วยผู้ทำบัญชีเป็นผู้แจ้งเอง
หัวหน้าสำนักงานรับทำบัญชี แจ้งว่ามีผู้ช่วยผู้ทำบัญชีกี่คน รวมทั้งชื่อและคุณวุฒิของผู้ทำบัญชี โดยผู้ช่วยผู้ทำบัญชี แต่ละคนจะแจ้งรายละเอียดธุรกิจทั้งหมด ในส่วนที่ผู้ช่วยรับผิดชอบเป็นผู้ทำบัญชี
—————————
47.สำนักงานรับทำบัญชี มีลูกค้าประมาณ 150 ราย เจ้าของสำนักงานเป็นผู้มีคุณสมบัติทำบัญชี และมีผู้ช่วยทำบัญชีซึ่งมีคุณสมบัติเป็นผู้ทำบัญชี 5 คน จะให้ผู้ช่วยเป็นผู้รับผิดชอบทำบัญชี เซ็นชื่อแทนเจ้าของกิจการได้หรือไม่ ผู้ช่วยจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีหรือไม่ สำนักงานรับทำบัญชีจะกรอกแบบฟอร์มอย่างไร
ในที่นี้ผู้ทำบัญชีคือ เจ้าของสำนักงานซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานรับทำบัญชี ทั้งนี้ ตามคำชี้แจงของกรมพัมนาธุรกิจการค้า เรื่องผู้ทำบัญชีและการแจ้งรายละเอียด ที่เกี่ยวข้องกับการทำบัญชีลงวันที่ 11 ตุลาคม 2545 ได้กำหนดว่า ผู้ทำบัญชี ของสำนักงานรับบัญชี ได้แก่ หัวหน้าสำนักงาน ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการในสำนักงานรับทำบัญชีนั้นๆ ที่มีหัวหน้าให้บริการจัดทำบัญชีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบของสำนักงานรับทำบัญชี
หัวหน้าสำนักงานรับทำบัญชี สามารถเป็นผู้ทำบัญชีของกิจการได้ไม่เกิน 150 รายในกรณีนี้ถ้าหัวหน้าสำนักงานประสงค์จะเป็นผู้ทำบัญชีไม่ถึง 150 ราย ก็สามารถแบ่งให้ผู้ช่วยที่มีคุณสมบัติ เป็นผู้ทำบัญชีให้ลูกค้าบางรายได้ แต่อย่างไรก็ตามจะมอบหมายให้ผู้ช่วยเป็นผู้ทำบัญชีของลูกค้า ทั้งหมดแทนเจ้าของสำนักงานไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากหัวหน้าสำนักงานอยู่ในฐานะผู้ทำบัญชี
การจัดหาผู้ช่วยผู้ทำบัญชีนั้น ผู้ทำบัญชีมีหน้าที่จัดให้มีเมื่อรับทำบัญชีเกิน 150 ราย โดยหัวหน้าสำนักงานต้องรับผิดชอบบัญชี ของกิจการในส่วนที่มอบหมายให้ผู้ช่วยผู้ทำบัญชีทำบัญชีด้วย ทั้งนี้หัวหน้าสำนักงานต้องยื่นแบบ ส.บช.5 โดยระบุชื่อ และคุณวุฒิของผู้ช่วยผู้ทำบัญชี ที่มีการกรอกรายละเอียดในส่วนของกิจการที่ตนรับผิดชอบเป็นผู้ทำบัญชีส่วนผู้ช่วยจะต้องยื่นแบบ ส.บช.5 แจ้งรายชื่อกิจการในส่วนที่ตนรับผิดชอบเช่นเดียวกัน
————————-
48.สำนักงานรับทำบัญชี โดยเจ้าของเป็นผู้มีคุณสมบัติทำบัญชี มีพนักงานที่จบปริญญาตรีทางบัญชี จะต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีหรือไม่ ถ้าให้เขาเป็นผู้ทำบัญชี 10 ราย การลงชื่อในแบบ ส.บช.3 จะให้ผู้ทำบัญชีลงลายมือชื่อ หรือเจ้าของสำนักงานลงลายมือชื่อ ในกรณีเช่นนี้เจ้าของสำนักงานต้องแจ้งอย่างไร
ในที่นี้เจ้าของสำนักงาน ซึ่งเป็นหัวหน้าสำนักงานคือผู้ทำบัญชีซึ่งต้องเป็นผู้ยื่นแบบ ส.บช.5 ถ้าจะแบ่งให้ผู้ช่วยที่มีคุณสมบัติเป็นผู้ทำบัญชีของลูกค้าบางราย ก็สามารถทำได้แต่จะให้ผู้ช่วยรับผิดชอบเป็นผู้ทำบัญชีของลูกค้าทั้งหมดไม่ได้ ดังนั้นหัวหน้าสำนักงานต้องยื่นแบบ ส.บช.5 แจ้งรายละเอียดกิจการที่ตนรับผิดชอบ เป็นผู้ทำบัญชีส่วนผู้ช่วยจะต้องยื่นแบบ ส.บช.5 แจ้งรายชื่อกิจการในส่วนที่ตนรับผิดชอบเช่นเดียวกัน
————————
49.ผู้ที่ลงชื่อใน ส.บ.ช 3 เป็นผู้ทำบัญชี ความรับผิดชอบรวมถึงการปกปิดการทำกิจการที่เจ้าของกิจการไม่เปิดเผยด้วยหรือไม่ (การซื้อขายนอกระบบ)
หากมีผู้รู้เห็นก็ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะกฎหมายกำหนดว่า ผู้ใด ลงรายการเท็จ แก้ไข ละเว้นลงรายการในบัญชี หรือแก้ไขเอกสารที่ต้องการใช้ประกอบการลงบัญชี เพื่อให้ผิดความจริง ต้องรับโทษตามกฎหมาย และหากผู้ที่มีหน้าที่ จัดทำบัญชีทำผิดเองต้องระวางโทษหนักกว่าผู้อื่น
————————
50.กรณีที่บริษัทจ้างสำนักงานรับทำบัญชีให้กับบริษัท ในการนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้จะลงลายมือชื่อ เป็นแบบผู้ทำบัญชีในแบบส.บช 3 คือใคร
ผู้ที่ทำบัญชีสำนักงานรับทำบัญชี มอบหมายให้ทำบัญชีของบริษัท จะเป็นผู้ลงลายมือชื่อในฐานะผู้ทำบัญชี และหัวหน้าสำนักงานรับทำบัญชี ลงลายมือชื่อในฐานะหัวหน้าสำนักงานรับทำบัญชีด้วย